นางชลารัตน์ พินิจเบญจพล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารจับมือกับวีซ่า พัฒนาดิจิทัล เพย์เมนต์ การชำระเงินรูปแบบใหม่ ทำให้ช่วง 5 เดือนแรกของปีมี 21% ลูกค้าบัตรเครดิตกสิกรไทยใช้จ่ายบนออนไลน์เพิ่มขึ้นเนื่องจากตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และคนอยู่บ้านกันมากขึ้นจากผลกระทบโควิด-19 จึงใช้จ่ายผ่านออนไลน์กันส่วนใหญ่ ส่งผลให้การใช้จ่ายรวมมี 1.32 แสนล้านบาท แบ่งเป็นออนไลน์ 27,000 ล้านบาท เติบโต 24% และยังใช้จ่ายผ่านร้านค้าปกติเติบโต 14%

สำหรับในครึ่งปีหลังนี้ บัตรเครดิตกสิกรไทย มีแผนเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในการช้อปออนไลน์มากขึ้น เช่น เพิ่มคะแนนสะสมจากหมวดชอปปิงออนไลน์ ทั้งการชอปปิงออนไลน์ในประเทศหรือการช้อปออนไลน์จากต่างประเทศ ไปจนถึงโปรโมชั่นการแลกคะแนนสะสม การรับส่วนลด หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ การเลือกผ่อนชำระสินค้า 0% เป็นต้น หลังจากธนาคารทำตลาดกระตุ้นให้ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยที่มีกว่า 3.2 ล้านใบ ได้ออกมาใช้จ่ายอีคอมเมิร์ซกันมากขึ้น โดยเดือน มี.ค.-พ.ค.64 จัดแคมเปญโค้ดลั่นมันส์เดย์ ร่วมกับวีซ่าด้วยการแจกโค้ดส่วนลดสุดพิเศษทุกวันจันทร์ด้วย

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า โควิด-19 เร่งให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงรูปแบบการค้า และการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอล จากการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของ วีซ่า เห็นว่าสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยมองหาช่องทางใหม่ ๆ ในการชอปปิง โดยมากกว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกช้อปผ่านแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ 65% และช้อปผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย 44% ดังนั้นการชำระเงินจำเป็นต้องเสริมโครงสร้างพื้นฐานเดิมด้วยการบริหารจัดการการฉ้อโกงที่ทันสมัยและเชื่อถือได้ ซึ่งความปลอดภัยในการชำระเงินเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับจากผู้บริโภค

ทั้งนี้ บริการที่ธนาคารและวีซ่าทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางและนำมาปรับใช้ในการนำเสนอให้แก่ผู้บริโภค ที่นอกจากจะเสริมความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นในการเลือกทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิตอลแล้ว เช่น การยืนยันรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งลูกค้าจะได้รับผ่านทางข้อความในโทรศัพท์มือถือเพื่อยืนยันถึงการทำธุรกรรมนั้น ๆ และเพิ่มเกราะป้องกันการฉ้อโกงด้วยบริการโทเค็นของวีซ่า ทำให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถประมวลผลการชำระเงินได้โดยไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียดบัญชีจริง โดยระบบจะทำหน้าที่เปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของบัญชี และรายละเอียดของบัญชีเป็นรหัสโทเค็นแบบสุ่ม เพื่อป้องกันมิจฉาชีพไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้

นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยระบบป้องกันในระดับชั้นเพิ่มเติมประเภท 3ดี-ซีเคียว ช่วยเสริมเกราะป้องกันการฉ้อโกง ช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยและร้านค้ามั่นใจได้ว่าการทำธุรกรรมนั้น ๆ เกิดขึ้นจริง นอกจากจะช่วยให้ผู้ขายไม่สูญเสียยอดขายซึ่งมาจากการชำระเงินถูกปฏิเสธ ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การจับจ่ายในภาพรวมให้ลูกค้าได้อีกด้วย