วันที่ 13 ก.ย. ที่​ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง​ (ตลิ่งชัน)​ นายกฤษฎา อินทามระ ในฐานะทนายความของ​ ลูกสาวอาม่าคนหนึ่ง ได้เดินทางมาศาลพร้อม​ แถลงข่าว​กรณีอาม่าท่านหนึ่งแจ้งความดำเนินคดีลูกสาวพร้อมพนักงานธนาคารรวม 5 คน ที่สถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง ต่อมา พนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องลูกสาวพร้อมพนักงานธนาคารรวม 5 คน เป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมมูลค่าความเสียหาย 250 ล้านบาท

ส่วนอาม่าก็ยังเป็นโจทก์ยื่นฟ้องธนาคารเจ้าหน้าที่ธนาคารพร้อมลูกสาวเรียกค่าเสียหายทางแพ่งอีกเป็นเงิน 350 ล้านบาท แต่ในระหว่างพิจารณาคดีอาญาข้อหาลักทรัพย์อยู่นั้น ลูกสาวอาม่าเห็นว่าพนักงานสอบสวนมีการสอบสวนมิชอบและฝ่าฝืนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 419/2556 เรื่องการอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญาการทำสำนวนการสอบสวนคดีอาญา จึงได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพนักงานสอบสวนเป็นจำเลยที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งคดีมีมูลให้ประทับฟ้องหมายเรียกจำเลยมาสอบคำให้การในวันนี้

โดย​ ทนายกฤษฎา​ กล่าวว่า​ เมื่อช่วงปลายปี 2562 มีคดีเกิดขึ้นในพื้นที่ศาลอาญาพระโขนงและเป็นข่าวโด่งดัง กรณีที่ หญิงสูงอายุ หรือ อาม่าท่านหนึ่ง แจ้งความดำเนินคดีลูกสาวพร้อมพนักงานธนาคารรวม 5 คน ที่สถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง มูลเหตุคดี เกิดจากการที่ อาม่า ในขณะที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลมีลูกสาวเป็นคนดูแล ปรากฏว่าอาม่ามืออ่อนแรง ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ ลูกสาวจึงติดต่อให้เจ้าหน้าที่ธนาคารมาเตรียมเอกสารและทำเงื่อนไขในการถอนเงินที่โรงพยาบาล

จากนั้นเมื่ออาม่ารักษาตัวจนหายดีแล้ว เวลาผ่านไป 3-4 ปี อาม่ากลับมาโวยวายว่าเงินหายไปจากธนาคาร 250 ล้านบาท จึงมาแจ้งความเอาผิดกับลูกสาวและพนักงานธนาคารรวม 5 คน เป็นคดีอาญา ข้อหาลักทรัพย์เงิน 250 ล้านบาท และฟ้องธนาคารกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเป็นคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายอีก 350 ล้านบาท

จากนั้นในระหว่างที่คดีอาญาเดินหน้าไป ทางลูกสาวของอาม่า เห็นว่าทำการสอบสวน ของพนักงานสอบสวน ไม่ถูกต้องตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญาการทำสำนวนการสอบสวนคดีอาญา จึงได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพนักงานสอบสวนเป็นจำเลยที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งคดีมีมูลให้ประทับฟ้องหมายเรียกจำเลยมาสอบคำให้การในวันนี้ (13 ก.ย.)