เมื่อวันที่ 10 ก.ย. พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม พร้อม พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย รองผกก.สส. พ.ต.ต.สุวิทย์ หล่มศักดิ์ สว.สส. ร.ต.อ.สุนทร ไตรเวช ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ โมฆรัตน์ รองสว.สส. เข้าจับกุม น.ส.วรรณนิภา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี หลังเข้ามาซื้อหมูน้ำหนักรวมประมาณ 100 กิโลกรัม มูลค่า 18,868 บาท แต่กลับนำสลิปที่มีการปรับแต่งชื่อผู้รับโอนเงินมาแสดง ซึ่งก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

นายเฉลิมพล รัตนพิทักษ์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านหมูรำพึง สาขาตลาดเอเวอรี่ติง จิงเกิลเบลส์ ถนนวัดเกาะ คลองถนน เขตสายไหม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) ทางร้านมีการตรวจสอบบัญชี เนื่องจากพบว่าที่สาขานี้ขายขาดทุนมาโดยตลอด จากการตรวจสอบสลิปย้อนหลังพบว่าลูกค้ารายนี้เข้ามาซื้อของเป็นประจำ ทุกครั้งจะโอนเงินผ่านมือถือแล้วส่งสลิป ซึ่งปรากฎผู้รับเงินเป็นชื่อร้าน แต่เมื่อสแกนคิวอาร์โค้ด กลับเป็นชื่อของลูกค้าเอง จึงเชื่อว่าลูกค้ารายนี้มีการปรับแต่งสลิป จึงทำการตรวจสอบย้อนหลังพบว่ามีการปรับแต่งสลิปมาซื้อของตั้งแต่ เดือน เม.ย. รวม 18 รายการ พ.ค. 52 รายการ มิ.ย. 29 รายการ ก.ค. 44 รายการ ส.ค. 51 รายการ ก.ย. 11 รายการ และครั้งล่าสุด 3 รายการ รวม 208 รายการ มูลค่ากว่า 1,615,857 บาท ซึ่งตนได้แจ้งความไว้ที่ สน.สายไหม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

เจ้าของร้าน เผยต่อว่า ช่วงสายลูกค้ารายนี้ได้ส่งไลน์ให้ทางร้านเตรียมของไว้ แล้วจะเข้ามารับของช่วงบ่าย โดยมีการสั่งของหลายรายการมูลค่ารวมกว่า 5 หมื่นบาท จึงได้ประสานทาง เพจสายไหมต้องรอด ร่วมกันวางแผนเพื่อจับตัวคนร้ายรายนี้ เมื่อคนร้ายมาถึง พบว่ามาด้วยกัน 4 คน ชาย 1 หญิง 3 ทางร้านจึงได้ให้คนงานยกของขึ้นรถคนร้าย ส่วนคนร้ายนั้นจะเดินเข้าไปที่แคชเชียร์เพื่อโอนเงิน จำนวน 3 สลิป ทางร้านจึงขอถ่ายสลิปไว้ และเมื่อตรวจสอบพบว่ามีการปรับแต่งสลิปจริง จึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่สกัดรถที่กำลังจะขับออกจากร้านโดยทันที

เบื้องต้นผู้ต้องหารายนี้ยอมรับว่าก่อเหตุจริง โดยก่อนหน้าทำทีมาซื้อของจ่ายเงินจริง เพื่อให้ได้สลิปของจริง จากนั้นเมื่อมาซื้อครั้งต่อไปก็มีการปรับแต่งสลิปโดยใช้แอพไลน์คาเมร่า ตัดชื่อร้านมาแปะสลิปที่ตนโอนเงินตามจำนวนสินค้าที่ซื้อของ ก่อนส่งให้ทางร้าน และทำเพียงคนเดียว ส่วนคนที่มาด้วยทั่งพี่ แม่ และเพื่อนไม่รู้เห็นกับการก่อเหตุในครั้งนี้ เมื่อได้ของมาก็จะนำไปขายคนรู้จักในราคากิโลละ 200 บาท เงินที่ได้มาก็นำมาเลี้ยงดูครอบครัว

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ พร้อมแจ้งข้อหา ฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร และพรบ.คอมพิวเตอร์ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.