เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ฉัตรชัย เรืองมาลัย รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบชน.ทท. นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี แถลงผลการจับกุมนักธุรกิจโรงเลื่อยแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี หลังตกเขียวเด็กหญิงชาวเขาอายุ 10 ขวบ จาก จ.เชียงราย ซื้อตัวจากแม่และพ่อเลี้ยงเด็ก มากักหน่วงเหนี่ยวและล่วงละเมิดทางเพศในห้องเช่า นอกจากนี้ยังมีการขยายผลจับกุมสาวสอง ครูสอนเต้นแอโรบิกที่อนาจารเด็กและข่มขืนนักเรียนหญิงใน อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี และถ่ายภาพและคลิปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือและจากการสอบสวนขยายผลพบมีเด็กหญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศรวม 17 ราย ก่อนปิดท้ายด้วยคดีหนุ่มขอนแก่นแชตล่อลวงเด็กหญิง 14 ปี ผ่านแอพหาคู่ก่อนล่วงละเมิดทางเพศ ถ่ายคลิปอนาจารไปขายในเว็บไซต์

คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 29 ส.ค ตำรวจได้รับแจ้งเด็กหญิงชื่อ ด.ญ.ปลา (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ ไม่ทราบสัญชาติ พูดภาษาไทยได้มาขอความช่วยเหลือด้วยอาการกลัวจนตัวสั่น จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี ซักถามเบื้องต้นทราบว่า เมื่อประมาณเดือน เม.ย.65 ด.ญ.ปลา ได้ถูกนายเทพเสรี แซ่ก่อ หรือเสี่ยหนึ่ง อายุ 36 ปี นักธุรกิจโรงเลื่อยแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ซื้อตัวจากแม่และพ่อเลี้ยงที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้วนํามาอยู่ด้วยที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี น.ส.อรสินี วัชรเดชวานิช อายุ 34 ปี เป็นผู้ดูแล ก่อนที่ ด.ญ.ปลา จะถูกนายเทพเสรี และ น.ส.อรสินี ล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงดุด่า ทุบตีเด็ก และยึดบัตรประจําตัวไว้

จนเมื่อวันที่ 29 ส.ค. เวลา 17.00 น. ขณะที่ น.ส.อรสินี เผลอ ด.ญ.ปลา แอบหนีออกมาจากห้องพักและไปขอความช่วยเหลือ และบอกเรื่องราวทั้งหมดตำรวจ จึงบุกเข้าไปค้นห้องพักด้วยความยินยอมจากเจ้าของห้องพัก จึงพบตัว น.ส.อรสินี และอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย เจลหล่อลื่น ถุงยางอนามัย อ้างว่าเป็นผู้ดูแลเด็กเท่านั้น ต่อมานายเทพเสรี ขับรถเข้ามาที่ห้องพัก และถูกเชิญตัวมาสอบปากคำ อ้างว่ารู้จักกับพ่อแม่เด็ก และนำตัวเด็กมาดูแลจริง แต่ด้วยพยานหลักฐานที่แน่นหนา จึงยอมรับสารภาพในที่สุด แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคนในความผิดฐาน “ร่วมกันพรากผู้เยาว์ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และร่วมกัน ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี”

ส่วนแม่และพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.ปลา ตำรวจได้ยื่นคําร้องต่อศาล จ.อุดรธานี ออกหมายจับเพิ่มเติม และได้จับกุมตัวทั้ง 2 คน พร้อมหลักฐานการรับโอนเงิน จำนวน 10,000 บาท นําส่งพนักงาน สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด” และได้รวมรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในความผิดฐาน “ร่วมกันค้ามนุษย์” เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนคดีที่สองเป็นการขยายผลหลังจากจับกุม นายธนัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ได้ของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พบภาพอนาจารเด็กกว่า 4,000 ภาพ และคลิปอนาจาร 3 คลิป ซึ่งเป็นคลิปที่นายธนัญญา กระทำอนาจารเด็ก จากการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมจนทราบว่า นายธนัญญา เป็นสาวสอง มีลักษณะตุ้งติ้งชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิง รับจ้างฝึกสอนเต้นแอโรบิกให้แก่นักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ก่อนหลอกลวงเด็กนักเรียนหญิงอายุ 8-13 ปี จำนวนหนึ่งมาข่มขืนและกระทำอนาจาร เป็นเวลาหลายปี จากการสอบสวนเพิ่มเติมมีเด็กตกเป็นเหยื่อมากถึง 17 ราย จึงดำเนินคดีในความผิดฐานครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กฯ และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ข่มขืนและกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี

และคดีที่สาม ตำรวจชุด TICAC ได้รับรายงานจากศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (NCMEC) ว่ามีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ “MaoNamHer oh” อัพโหลดสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ใช้บัญชีดังกล่าวคือ นายรชต สนิทวงศ์ อายุ 26 ปี อาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงไปขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายค้น ตรวจสอบข้อเท็จจริงและค้นหาหลักฐานในการกระทำความผิด เมื่อวันที่ 10 ส.ค. เวลา 08.40 น. ที่หอพักสุขสบายเพลส 2 ห้องหมายเลข 302 บ้านกอก ซอย 10 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น พบนายรชต อยู่ภายในห้อง และพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซึ่งเป็นของผู้ต้องหาเอง ภายในเครื่องพบสื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมากโดยผู้ต้องหารับว่าได้ดาวน์โหลดภาพและคลิปวิดีโอสื่อลามกอนาจารเด็กมาจากเว็บไซต์ VK และใน google มาเก็บไว้ในมือถือของตน

โดยมีบางคลิปเป็นภาพนายรชต กระทำอนาจารเด็กผู้หญิง จากการสอบถาม นายรชต รับว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ตนได้นัดเจอผู้หญิงผ่านแอพลิเคชั่น Tinder ซึ่งเป็นแอพหาคู่ เป็นการคุยกับเด็กหญิงไปในเชิงชู้สาวและได้นัดเจอเพื่อมีเพศสัมพันธ์กัน พร้อมกับถ่ายคลิปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของตน เมื่อเดือน มี.ค. 64 ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น จากการสืบสวนผู้หญิงในคลิปคือ ด.ญ.แพร (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ต่อมาวันที่ 18 พ.ค. 65 ผู้ต้องหาได้นําคลิปวิดีโอไปเสนอขายต่อผ่านเว็บไซต์ VK ผู้ต้องหารับสารภาพก่อนแจ้งข้อหา “กระทำการค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์จากการ ผลิต สื่อลามกซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลอายุไม่ เกินสิบห้าปี, พรากและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาเพื่อหากําไรหรือเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมีใช่ภริยาของตน, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทาง เพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น”

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากชุดปฏิบัติการ TICAC ได้รับการประสานข้อมูลจากศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NCMEC) จึงเร่งดำเนินการออกสืบสวน ติดตามและจับกุมผู้ต้องหาโดยเร่งด่วนทั่วประเทศในพื้นที่ภาค 4 บางคดีเป็นการกระทำผิดที่มีพฤติกรรมที่ภายนอกจะได้รับความไว้วางใจในการเข้าใกล้ชิดตัวเด็ก แต่ได้อาศัยความใกล้ชิดและความไว้วางใจในการกระทำอนาจารและแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากตัวเด็ก รวมทั้งคดีที่ผู้ปกครองของเด็กยินยอมที่จะขายตัวเด็กเองเพื่อแลกกับเงินจำนวนหนึ่ง

“เมื่อได้ทราบข้อมูลการกระทำผิด จึงต้องรีบเข้าช่วยเหลือและดำเนินคดีผู้กระทำผิดโดยเร็ว ในส่วนของเด็กและเยาวชนที่เป็นเหยื่อนั้น จะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ พม.และยุติธรรม จังหวัดเข้าให้การช่วยเหลือและดูแล คุ้มครองเด็กตามกระบวนการและจะใช้กฎหมายผิดฐานการค้ามนุษย์ ข้อหาการค้ามนุษย์ ไปถึงการยึดทรัพย์และค้นหานำเด็กออกจากสื่อลามกทั้งหมด ทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์ ตัวเลขการจับกุมเพิ่มมากขึ้นแต่การละเมิดเด็กยังมีมากขึ้น อยากฝากให้พี่น้องประชาชนที่พบเห็นช่วยแจ้งตำรวจ” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว