เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงข่าวเกี่ยวข้องกับกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุม ในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) ว่า การพิจารณาคดีวาระ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นับตั้งแต่วันที่ศาลพิจารณารับคำร้อง วันที่ 24 สิงหาคม ศาลได้ดำเนินการพิจารณาตามลำดับขั้นตอนตามปกติ ศาลมีการนัดประชุมในวันพรุ่งนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ถือว่าศาลเร่งรัดเวลา หรือทำให้ช้าลง ศาลให้ความสำคัญกับคดีนี้ แต่ไม่ใช่เป็นการเร่งรัดขั้นตอนแต่อย่างใด

“ตามที่มีกระแสข่าวว่า ในการประชุมวันพรุ่งนี้ จะมีผลออกเสียงข้างมาก ข้างน้อย แต่กระบวนการยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ไม่สามารถที่จะทราบมติการออกเสียงได้ เป็นเพียงการนำข้อมูลหลักฐานจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีความเพียงพอที่จะพิจารณาและเพียงพอที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยต่อไปได้หรือไม่เท่านั้น การที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการนัดอ่านคำวินิจฉัยในอีก 15 วัน ศาลยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีเงื่อนไขของการนัดเวลาที่จะอ่านคำวินิจฉัย เพราะระดับขั้นตอนที่ศาลต้องพิจารณาจะมีการอภิปราย หากไม่พอ ศาลจะต้องขอหลักฐานเพิ่มเติมตามที่กฎหมายกำหนด จากพยานบุคคล หน่วยงานราชการ หรือพนักงานสอบสวน มากระทำหรือให้การที่เป็นประโยชน์ต่อศาล และดำเนินขั้นตอนไต่สวน นี่คือลำดับขั้นตอนการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ”

ส่วนกรณีที่หนังสือของ นายมีชัย ฤชุพันธ์ุ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หลุดออกมาทางโซเชียลมีเดีย นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ให้ความสำคัญและกังวล เนื่องจากต้องติดตามตรวจสอบว่าเป็นเอกสารที่มีที่มาที่ไปอย่างไร กังวลที่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงการพาดพิงกระทบไปถึงผู้เกี่ยวข้องในส่วนต่างๆ ท่านจึงอยากเรียนให้สื่อมวลชนทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น นายวรวิทย์ ไม่เคยนิ่งนอนใจ ให้ตรวจสอบหาความจริงต่อไป และแสดงความเสียใจที่ข้อมูลรั่วไหลออกมา ส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี จึงขอให้สื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ว่าตอนนี้ยังอยู่ในชั้นตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่มีข้อสรุปว่าเอกสารฉบับนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

ดังนั้น การแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นเพียงแค่แจ้งถึงเอกสารที่หลุดออกมาเมื่อวานเท่านั้น

เมื่อถามว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีคนปล่อย จะสามารถดำเนินคดีได้หรือไม่ นายเชาวนะ เผยว่า ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขใดบ้าง แต่มีผลกระทบกับผู้เกี่ยวข้องแน่นอน