นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลการจัดโครงการจับคู่ธุรกิจเพื่อเจรจาการค้าผ่านระบบออนไลน์ในตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมเจรจาธุรกิจเป็นผู้ส่งออกไทย 123 บริษัท และมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าสมัครเข้าร่วม 74 ราย เกิดการจับคู่ธุรกิจได้จำนวน 123 คู่ มีมูลค่าสั่งซื้อ 52 ล้านบาท ภายใน 1 ปี และยังมีผู้ซื้อผู้นำเข้าอีกหลายรายแสดงความประสงค์ขอข้อมูลสินค้าและรายละเอียดเพิ่มจากผู้ส่งออกไทย เพื่อทำการเจรจาการค้าเพิ่มเติมต่อไปในภายหลัง 

สำหรับสินค้าที่ได้รับความสนใจจากผู้นำเข้า ได้แก่ สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องมือแพทย์ และสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ โดยตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียและแอฟริกา ที่เคยเป็นตลาดข้าวของไทย ก็ต้องหาทางฟื้นขึ้นมาให้ โดยให้ทูตพาณิชย์ฐานะเซลส์แมนประเทศทำงานเชิงรุก ทำงานเป็นทีม เพื่อประสานงานกับพาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลส์แมนจังหวัด ช่วยกันพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และเพิ่มช่องทางการขาย

“ตลาดตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ต้องอาศัยการนำเข้า โดยเฉพาะอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค และมีการเร่งอัดฉีดเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิดด้วย โดยช่วง 6 เดือนของปี 64 ไทยส่งออกไปตะวันออกกลางแล้ว 132,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.78% ตลาดที่ส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และตุรกี สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ไม้ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น”

นางมัลลิกา กล่าวว่า ตลาดแอฟริกา เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ทั้งแอฟริกาตะวันออกและตะวันตก โดยเมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาได้เริ่มใช้ความตกลงเขตการค้าเสรีทวีปแอฟริกาถึง 54 ประเทศ ซึ่งส่งผลให้มีการค้าระหว่างกันในแอฟริกาเพิ่มมากขึ้น โดยการส่งออกของไทยไปแอฟริกาช่วง 6 เดือน มีมูลค่า 96,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.4% ประเทศ 3 อันดับแรกที่ไทยส่งออกไปมากที่สุด ได้แก่ แอฟริกาใต้ อียิปต์ และไนจีเรีย สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ ข้าว เครื่องยนต์ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป

ขณะที่ตลาดลาตินอเมริกา มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยช่วง 6 เดือน ไทยส่งออกไปแล้ว มูลค่า 127,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.22% โดย 3 ประเทศที่ส่งออกมา ได้แก่ เม็กซิโก บราซิล และอาร์เจนตินา สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ยางรถยนต์ เครื่องยนต์ เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์