เมื่อวันที่ 29 ส.ค.65 ศาลไมอามีสั่งให้มีการจ่ายค่าธรรมเนียมกว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,545 ล้านบาท) ให้ทีมทนายความฝ่ายโจทก์ผู้เป็นตัวแทนเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 43,632 ล้านบาท) จากกรณีอาคารคอนโดมิเนียมถล่มในเมืองเซิร์ฟไซด์ เขตไมอามี-เดด เคาน์ตี รัฐฟลอริดา เมื่อเดือน มิ.ย. 2564  ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยราย

ทีมทนายความทั้ง 17 ของฝ่ายโจทก์ จะได้รับการแบ่งสันปันส่วนจากเงินค่าธรรมเนียมจำนวนดังกล่าว ทั้งนี้ จากเอกสารที่ยื่นต่อศาล ทีมทนายความของคดีนี้เรียกค่าธรรมเนียมประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,636 ล้านบาท) 

ผู้พิพากษา ไมเคิล ฮันซ์แมน ประจำศาลอุทธรณ์ ได้ยอมรับและอนุมัติจำนวนเงินค่าเสียหายที่ฝ่ายจำเลยต้องจ่ายจากคดีนี้ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และจัดให้มีการแถลงเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมเมื่อวันจันทร์ที่ 29 ส.ค. 2565

คดีนี้สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์อาคารที่พักอาศัย 12 ชั้น ‘แชมเพลน ทาวเวอร์ส เซาท์’ ในย่านชานเมืองของไมอามี ได้ถล่มพังลงมาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564 ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 98 คน และต้องใช้กำลังคนและเวลามากกว่า 1 เดือน เพื่อค้นหาตามซากปรักหักพังของอาคาร  

ฮาร์ลีย์ โทรพิน และเพื่อนร่วมทีมทนายความฝ่ายโจทก์กล่าวในงานแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ในนามของผู้เสียหายจากโศกนาฏกรรมอาคาร แชมเพลน ทาวเวอร์ส ถล่ม พวกเขารู้สึกพอใจที่คดีความใกล้ดำเนินมาถึงจุดจบแล้ว ขณะที่ทีมทนายของฝ่ายจำเลยยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ 

ตามข้อตกลงการในการยอมความ กำหนดให้มีการจ่ายค่าชดเชยจำนวน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกถล่มและผู้พักอาศัยในอาคารที่ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียที่พักอาศัย 

แม้จะผ่านมาถึง 1 ปีแล้ว แต่ฝ่ายสืบสวนของรัฐไม่เคยประกาศข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้อาคารถล่ม ขณะที่มีรายงานว่า โครงสร้างของอาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2530 และมีการเสื่อมสภาพกลับผ่านมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารมาได้หลายต่อหลายครั้ง

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES