เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ กล่าวถึงกรณี ส.ต.ท.(หญิง) กรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายอดีตทหารหญิงที่มาทำงานรับใช้ภายในบ้านว่า เดิมทีจะไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อให้โอนคดีมาที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) แต่เชื่อว่าทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะทำเต็มความสามารถ จึงไม่ขอโอนคดี เบื้องต้นทราบว่าวันที่ 25 ส.ค. นี้ ผู้ถูกกล่าวหาอีกราย จะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในช่วงบ่าย ซึ่งตนจะเข้าค้านการประกันตัว

แฉ ‘2อดีตพล.อ.-อดีตผบ.ตร.’ ช่วย ‘ส.ต.ท.หญิง-เหยื่อ’ รับราชการ

นายไพศาล กล่าวต่อว่า ส่วนทางคดีนั้น ตนไม่มองเรื่องถูกทำร้ายอย่างเดียว แต่มองทั้งเรื่องการเข้ารับราชการว่าใครเป็นมือที่มองไม่เห็น รวมถึงเรื่องวุฒิ ปวส. ด้านการบัญชี ว่าสามารถเข้ารับราชการเมื่ออายุเกิน 35 ปีได้จริงหรือไม่ เพราะปฏิบัติหน้าที่ไม่นานก็ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ บช.ส. จากนั้นก็ไป กอ.รมน. จึงต้องตรวจสอบและชี้แจง นอกจากนี้การกล่าวอ้างไปถึงสมาชิกวุฒิสภา หากไม่ใช่เรื่องจริง ก็ขอให้ผู้ถูกกล่าวอ้างออกมาชี้แจง เพื่อทำให้เรื่องนี้โปร่งใสบริสุทธิ์.