กรณีตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจประสานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เข้าตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ประกอบกิจการเหมืองขุดเงินดิจิทัลว่า อาจจะเข้าข่ายเหมืองทิพย์ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ส.ค. มีรายงานว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งอาจจะต้องเชิญบางบริษัทมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็น ตรวจสอบเอกสารแผนดำเนินการการลงทุน และอยู่ระหว่างประสานข้อมูล ก.ล.ต. หากพบว่ามีความผิดทางกลต. จะต้องร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะถือว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับหลักทรัพย์ หากบริษัทจดทะเบียนฝ่าฝืนข้อบัญญัติของกฎหมาย ย่อมเป็นความผิดตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และตาม พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561

ทั้งนี้มีรายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เน้นย้ำกำชับให้ ทาง ก.ล.ต.กำชับให้ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งการลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรจะต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน รวมทั้งใช้ความระมัดระวัง หากถูกชักชวนให้ลงทุนโดยอ้างว่าสามารถให้ผลตอบแทนในระดับที่สูง และควรตรวจสอบว่าผู้ที่ชักชวนเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งผู้ที่ระดมทุนโดยการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน และผู้ที่ชักชวนให้ลงทุนในหลักทรัพย์จะต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต