เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ กระทรวงยุติธรรม นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วย ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอดีตทหารหญิงเข้าขอรับความคุ้มครองในฐานะผู้เสียหายคดีอาญากับ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม กรณีถูกเจ้านายสาว ซึ่งเป็น ส.ต.ท. อ้างตัวเป็นภรรยา ส.ว. ทารุณกรรมทั้งร่างกายและจิตใจอย่างร้ายแรง

ไร้เงา ‘ส.ต.ท.หญิง’ อ้างเมียส.ว. ทารุณทหารหญิงรับใช้ บ้านพักถูกปิดเงียบ

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า กรณีนี้ผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายจากบุคคลที่คิดว่าเป็นนายจ้าง และเกิดขึ้นขณะที่ยังรับราชการทหารอยู่ ส่วนคู่กรณีที่เกี่ยวข้องก็รับราชการด้วยเช่นกัน โดยผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายหลายแห่ง สิ่งที่สำคัญคือผู้เสียหาย หายใจได้ด้วยรูจมูกเพียงข้างเดียว เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย สำหรับการกระทำดังกล่าวจะเป็นการค้ามนุษย์หรือไม่นั้น อยู่ที่การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องของการลาออกจากราชการของผู้เสียหายตนเล็งเห็นว่าไม่น่าจะลาออก แต่อาจจะย้ายหน่วยงานแทน

“ขอให้มั่นใจว่าผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรมและความปลอดภัย ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจะประสานไปยังหน่วยงานของผู้เสียหายให้ระงับเรื่องของการลาออก เพื่อที่ผู้เสียหายจะได้ไม่ต้องตกงาน หรืออาจจะพูดคุยกันในเรื่องของการโอนย้ายหน่วยงานเพื่อความสบายใจของผู้เสียหายเอง” ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวอีกว่า

กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตอนนี้ทางผู้เสียหายเป็นห่วงว่ายังไม่สามารถตามตัวคนก่อเหตุได้ ทำให้กังวลเรื่องความปลอดภัยทั้งตัวเองและครอบครัว เนื่องจากพบว่ามีการขู่ทำร้ายคนในครอบครัวด้วย ตนจึงอยากขอให้นำตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี ส่วนเรื่องที่มีผู้ใหญ่มาขอให้ตนเบาๆ กับการดำเนินการเรื่องนี้ ตนคงทำให้ไม่ได้เพราะสิ่งที่ผู้เสียหายถูกกระทำนั้นเกินกว่าที่คนเขาจะทำกัน ทั้งการนำน้ำยาล้างห้องน้ำกรอกปากจนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย ส่วนเรื่องการลาออกจากราชการของผู้เสียหาย ไม่ใช่ความสมัครใจของเขา แต่เป็นการถูกบังคับจากนายจ้างโดยอ้างว่าเป็นคนให้อาชีพแก่ผู้เสียหาย

ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่า ขอบคุณทุกคน ทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือ รู้สึกเหมือนมีชีวิตใหม่ และอยากใช้ชีวิตต่อ ขณะนี้ตนเพียงอยากให้ครอบครัวและญาติพี่น้องปลอดภัย ส่วนอาชีพทหาร ยังเป็นสิ่งที่อยากทำและสร้างระเบียบวินัยที่ดี เพียงแต่จังหวะชีวิตมาเจอกับคนไม่ดีเท่านั้นเอง ซึ่งตนมองว่าไม่เกี่ยวกับอาชีพ