เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ศาลอาญารัชดา นายอนันต์ชัย ไชยเดช หรือทนายกระดูกเหล็ก พร้อมด้วยนายพชรล์ หรือแทมป์ เมสสิยาห์พร ผู้บริหารบริษัท มังกรฟ้า ล็อตเตอรี่ จำกัด เดินทางมาศาลเพื่อนัดไต่สวนคำร้องคดีหมายเลขดำที่ พศ.108/2565 ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท มังกรฟ้าฯ เป็นจำเลยครั้งที่ 2 เพื่อขอปิดแพลตฟอร์มมังกรฟ้า โดยในวันนี้มี พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สำนักงานสลากฯ และตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเบิกความรวม 8 ปาก หลังจากศาลยกฟ้องในครั้งแรก

ทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า ทั้ง 3 หน่วยงาน คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ,สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และดีอีเอส เคยฟ้องมังกรฟ้าไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งมีมูลเหตุคดีเดียวกันและศาลยกฟ้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์คดีของดีอีเอส โดยการฟ้องครั้งที่ 2 นี้กลับนำมูลเหตุคดีเดียวกันมาฟ้องซ้ำอีก แล้วอ้างว่าพยานหลักฐานที่นำมาสืบในครั้งแรกนั้น ยังมีไม่พอและน้อยเกินไป ตอนนี้จึงรวบรวมพยานหลักฐานใหม่มาฟ้อง อยากให้ทั้ง 3 หน่วยงานที่ดำเนินการฟ้อง ไปดูกฎหมายให้ดีว่าเป็นกระบวนการพิจารณาซ้ำหรือไม่ เพราะอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์

ทนายอนันตชัย กล่าวว่า หากคดียังไม่ถึงที่สุดถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ หากอยู่ระหว่างคดีของศาลชั้นต้น จะเป็นฟ้องซ้อน อยากให้ 3 หน่วยงานไปดูข้อกฎหมายที่มาฟ้องมังกรฟ้าวันนี้เป็นครั้งที่ 2 ด้วยเพราะนักกฎหมายเรียกว่าเป็นการฟ้องซ้ำ ตนจึงยื่นคำร้องต่อศาลว่าการดำเนินกระบวนพิจารณาวันนี้ เป็นการเดินกระบวนพิจารณาซ้ำ โดยหลักศาลต้องจำหน่ายคดีออกจากระบบศาล การพิสูจน์ความผิดของจำเลยในกระบวนการของศาล ควรมีได้เพียงครั้งเดียวต้องให้ความเป็นธรรมกับจำเลย เมื่อพิสูจน์ไปแล้วต้องอุทธรณ์ ฎีกา ตามกระบวนการไม่ใช่ฟ้องใหม่

ด้านนายพชรล์ หรือแทมป์ ระบุว่า การถูกฟ้องซ้ำครั้งนี้ตนรู้สึกว่าเหมือนผู้ใหญ่แกล้งเด็ก รู้สึกว่าไม่มีความแฟร์ อยากให้ประชาชนเห็นซึ่งตนพร้อมสู้เต็มที่