รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 33.39 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่าท่ามกลางสัญญาณเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศ ที่มีผลกระทบต่อเนื่องไปยังแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้า

นอกจากนี้เงินดอลลาร์ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ของสหรัฐ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งกระตุ้นให้เกิดกระแสการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มทยอยลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ผ่านมาตรการ QE ภายในปีนี้เป็นอย่างเร็ว

อนึ่ง ในช่วงระหว่างวันที่ 2-6 ส.ค. เงินบาทอ่อนค่าลงแล้ว 1.4% โดยในวันศุกร์ (6 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.34 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 32.87 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 ก.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (9-13 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.10-33.60 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์และมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคานำเข้า-ส่งออกเดือน ก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. (เบื้องต้น) ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน มิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ขณะเดียวกันตลาดยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือน ก.ค. ประกอบด้วย การส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และการปล่อยกู้สกุลเงินหยวนด้วยเช่นกัน