เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าค่ำวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ขัตติยะ เพชรกล้า รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุมีผู้ผูกคอเสียชีวิตภายในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองบุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจรรยาธรรม ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมห้องพักแบบรีสอร์ทชั้นเดียว ให้บริการทั้งรายวันและรายเดือน ภายในห้องเกิดเหตุบริเวณที่ตากผ้าหลังห้อง พบศพ น.ส.วรรณลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ลูกจ้างชั่วคราวสำนักงานเกษตรอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ สภาพนอนอยู่บนพื้นหลังห้องพัก บริเวณคอมเพรสเซอร์แอร์พบปลอกหมอนที่ผู้ตายใช้ผูกคอติดอยู่ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลถูกทำร้าย และไม่พบร่องรอยรื้อค้นห้อง คาดเสียชีวิตมาประมาณ 30 นาที นอกจากนี้ยังพบจดหมาย 1 ฉบับ

ตรวจสอบข้อความในจดหมาย เขียนข้อความประมาณว่า คนที่คิดฆ่าตัวตายเขาไม่คิดแล้วทำเลย แต่เขาคิดหลายรอบแล้วเลือกจบทุกอย่าง จากนั้นเป็นการเขียนบรรยายว่าการตายในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับความรัก ไม่เกี่ยวข้องกับป๋า สาเหตุเพราะโดนโกง หนี้สินหลายอย่าง หนี้ที่ไม่ได้ก่อและหนี้ที่ก่อเอง เศรษฐกิจแบบนี้คงหาใช้แทนไม่ไหวแล้วมรสุมทุกอย่างมาพร้อมกันหมดโลกนี้ไม่น่าอยู่อีกต่อไป ภายในจดหมายยังเขียนข้อความฝากถึงป๋า ให้ดูแลตากับยายพร้อมเขียนรหัสบัตร ATM จำนวน 3 ใบไว้ให้ป๋ากดเอาไปจัดงานศพ และลงท้ายยืนยันว่าทุกตัวอักษร เขียนเองทั้งหมดจึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

นายสุคนธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี สามีผู้เสียชีวิต พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุออกไปหาหมอในตัวเมืองพอกลับมาถึงห้องไม่เห็นผู้ตายอยู่ในห้อง ตามหามาพบเป็นศพผูกคออยู่หลังห้อง สภาพศพยังไม่แข็ง จึงตะโกนเรียกให้คนมาช่วยพร้อมนำร่างลงมาแล้วพยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าเครียดหลายเรื่องทั้งหนี้สินที่ก่อเองและไม่ได้ก่อเองตามที่เขียนในจดหมาย รวมถึงเป็นห่วงพ่อติดเชื้อโควิด-19 อยู่กรุงเทพฯ อยู่ระหว่างติดต่อให้สาธารณสุขบุรีรัมย์ รับกลับมารักษาที่บ้านเกิด ทำให้อาจทำให้เครียดสะสมหลายเรื่องตัดสินใจผูกคอดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป