ความเคลื่อนไหวของ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองประวัติศาสตร์ รุ่น 49 กก.หญิง ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 และทีมเทควันโดไทย ที่อยู่ในโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ พร้อมร่วมกับคณะนักกีฬาและผู้ฝึกสอน ทำกิจกรรมการกุศลต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต อย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันนั้น

ทางด้าน “เบสบอล” นายศราวิน วงศ์พัฒนกิจ พี่ชายของน้องเทนนิส ซึ่งได้รับการมอบหมายจากคอรบครัว ให้เป็นผู้จัดการดูแลระบบสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของจอมเตะฮีโร่สาว เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าตอนนี้การดำเนินชีวิตของน้องเทนนิส อาจจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่นิสัยส่วนตัวเป็นเด็กที่น่ารัก อ่อนน้อมถ่อมตนก็ยังเหมือนเดิม ก่อนและหลังเป็นอย่างไรก็ยังเหมือนเดิม และหลังจากออกจากการกักตัวและจบงานฉลองชัยเหรียญทองแล้วก็ต้องกลับเข้าแคมป์ฝึกซ้อมเทควันโดหนักต่อ ตามแผนงานของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย

ส่วนการใช้ชีวิตส่วนตัวนั้น ตนและครอบครัวทั้งพ่อสิริชัย พี่สาวคนโต (“โบว์ลิ่ง” นาวาอากาศโทหญิง กรวิกา วงศ์พัฒนกิจ) และพี่เขย ต่างก็ให้คำแนะนำไปเพราะตอนนี้เราเป็นที่จับตามองของสังคม อาจจะมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีเข้ามา รวมทั้งเรื่องของการโพสต์เรื่องราวต่างๆ บนสังคมโซเชียลที่น้องเทนนิส มีมากมายหลายช่องทางนั้นก็ต้องระมัดระวังให้มาก เพราะมันมีทั้งด้านบวกด้านลบ เราเป็นไอดอลเป็นแบบอย่างของเด็กๆ และเยาวชน ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มาก

นายศราวิน วงศ์พัฒนกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับเงินที่ได้มานั้นตนเป็นเพียงคนดูแลให้น้องสาว ซึ่งเจตนารมณ์ของเขาคือจะมอบให้กับพ่อและเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา รวมทั้งเก็บไว้ประกอบอาชีพหลังเลิกเล่นทีมชาติแล้ว นอกจากนี้ยังจะบริจาคการกุศล ซึ่งครอบครัวก็ทำมาเป็นประจำ ส่วนธุรกิจที่น้องเทนนิส ฝันอยากจะทำคือ “คาเฟ่สุนัข” ภายในร้านนอกจากจะมีกาแฟและเครื่องดื่ม ตลอดจนขนมให้รับประทานแล้ว ลูกค้าที่ไม่ได้เลี้ยงสุนัขก็สามารถมาเล่นกับสุนัขของทางร้านได้

“สาเหตุที่น้องเทนนิส อยากมีร้านแบบนี้ก็เพราะว่าเป็นคนที่รักสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข แต่ตัวเองก็ไม่มีสุนัขเลี้ยงเลยสักตัว เพราะว่าไม่มีเวลาดูแล ต้องซ้อมเทควันโดหนัก ฝึกซ้อมแล้วก็เข้านอนทันที หลังจากนี้ถ้ามีโอกาสแล้วตนเชื่อว่าน้องสาวน่าจะทำได้ตามความฝันของตัวเองที่จะเปิด “คาเฟ่สุนัข” ขึ้นอย่างจริงจังเสียที” พี่ชายสุดที่รักของนเองเทนนิส กล่าว