สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงมีพระราชดำรัสต่อที่ประชุมอาหรับ-สหรัฐ ที่เมืองเจดดาห์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าเป้าหมายการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียยังคงเป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะเพิ่มเป็นสูงสุด 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในปี 2570 จากปัจจุบันอยู่ที่วันละ 10-11 ล้านบาร์เรล “และจะไม่มีการเพิ่มมากกว่านั้นอีก” โดยยังไม่มีการเจาะจง ว่าซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มการผลิตน้ำมันอีกครั้ง “เมื่อไหร่”
فيديو | #ولي_العهد: #المملكة أعلنت عن زيادة القدرة الإنتاجية إلى 13 مليون برميل يوميا وبعد ذلك لن يكون لدى المملكة أي قدرة إضافية للزيادة#قمة_جدة_للأمن_والتنمية#الإخبارية pic.twitter.com/b43FsObhRQ
— قناة الإخبارية (@alekhbariyatv) July 16, 2022
เจ้าชายโมฮัมเหม็ดตรัสต่อไปว่า การดำเนินนโยบาย “ที่ไม่สมเหตุสมผลตามความเป็นจริง” เพื่อมุ่งเน้นลดปริมาณการปล่อยก๊าซพิษ โดยไม่คำนึงถึงแหล่งทรัพยากรพลังงานภายนอก มีแต่จะยิ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น อัตราการว่างงานสูงขึ้น และการเกิดปัญหาสังคมอื่นตามมา
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/07/2022-07-16T115057Z_746830005_RC2TCV9M2JNV_RTRMADP_3_USA-SAUDI.jpg)
ขณะเดียวกัน พระองค์ตรัสเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ “สถานการณ์ด้านภูมิศาสตร์การเมืองโลก” ต้องได้รับความใส่ใจและความร่วมมืออย่างจริงจังจากทุกฝ่าย เช่นเดียวกับการขับเคลื่อนนโยบายเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลสู่พลังงานสะอาด ที่จะเป็นจริงได้ เมื่อดำเนินการอย่างจริงจังเท่านั้น
ทั้งนี้ หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการเยือนซาอุดีอาระเบีย โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการขอให้รัฐบาลริยาดและสมาชิกองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก ( โอเปก ) เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก เพื่อช่วยลดราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลก และบรรเทาความรุนแรงของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐ ที่สถิติตอนนี้พุ่งไปสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ.
เครดิตภาพ : REUTERS