นายศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เผยว่า สมาคมฯ จะจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่ ในวันที่ 20 ก.ค. นี้ ตามวาระ 4 ปี โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนเองก็จะยังทำงานร่วมทีมกับ “บิ๊กฮง” นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน เพราะยังมีงานที่ต้องสานต่ออีกมา อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับกรรมการและสมาชิกสโมสร ที่จะพิจารณาเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ด้วย
“คิวทอง” กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ได้ทำงานในวงการสอยคิวมาอย่างต่อเนื่อง 30 กว่าปี ตั้งแต่ยุคนายสินธุ พูนศิริววงศ์ เป็นนายกสมาคมฯ ต่อเนื่องมาถึงนายสุนทร เป็นนายกสมาคมฯ โดย สมาคมฯ ได้พยายามผลักดันให้กีฬาสนุกเกอร์ เป็นกีฬาอย่างแท้จริง ไม่มีเรื่องของการพนันมาเกี่ยวข้อง เหมือนเช่นอดีตที่มองว่า กีฬาสนุกเกอร์เป็นเรื่องการมั่วสุมเล่นการพนัน ในที่สุดก็ได้รับการผลักดันจนสนุกเกอร์เป็นหนึ่งใน 30 กีฬา ตาม พ.ร.บ.กีฬา ได้รับการยอมรับและเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกีฬาที่จัดแข่งขันในศึกซีเกมส์ ที่อินโดนีเซีย เมื่อปี 2538 นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังได้ผลักดันนักกีฬาสู่ระดับอาชีพและระดับโลก ล่าสุดคือ “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู, “หมู ปากน้ำ” นพดล แสงคำ, แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัต พุ่มแจ้ง และอีกหลายราย
ทั้งนี้ ในยุคนี้ที่มี นายสุนทร เป็นนายกสมาคมฯ และตนเป็นอุปนายก 4 ปี แม้จะเผชิญกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กว่า 3 ปี แต่สมาคมฯ ได้ขับเคลี่อนสร้างผลงานมาตรฐานที่สูงขึ้น โดยจัดกิจกรรมการแข่งขันจนครบทุกทัวร์นาเมนต์ ทั้งในประเทศและนานาชาติ นอกจากนี้ นายสุนทร ยังประสานงานสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก (WPBSA) เพื่อให้ไทยและทวีปเอเชีย ได้จัดศึกสนุกเกอร์ “เอเชีย-โอเชียเนีย คิวสคูล” คัดเอานักสนุกเกอร์ทั้ง 2 ทวีป ไปเล่นอาชีพโลก และได้สิทธิจัดการแข่งขันไปตลอด และยังเจรจากับ WPBSA จนกลับมาให้เงินสนับสนุนการเปิดศูนย์ฝึกเยาวชน หลังจากที่ได้ยุติการสนับสนุนไปนานถึง 6 ปี อีกด้วย
ขณะที่ การเชื่อมสัมพันธ์ภายในสมาชิกสโมสรทุกองค์กร นายสุนทร เป็นผู้ริเริ่มจัดให้มีการแข่งขันสนุกเกอร์ภายในสโมสรสมาชิกของสมาคม เพราะเห็นความสำคัญของสมาชิกสโมสรทุกสโมสร ที่จะร่วมผลักดันวงการสนุกเกอร์ให้ก้าวหน้าต่อไป และยังจัดให้มีการอบรมสัมมนาผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน ตามแผนยุทธศาสตร์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการกีฬา นักกีฬาทีมชาติ และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผลักดันเพิ่มค่าแรงของกรรมการ โค้ชและนักกีฬา
“ถึงวันนี้ผ่านมา 4 ปี ที่ได้ร่วมบริหารงานสมาคมฯ ได้ร่วมกับ “เฮียฮง” พัฒนา ยกระดับวงการ สนุกเกอร์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการพนัน ที่เริ่มเข้ามาระบาดในวงการสนุกเกอร์ไทยอีกครั้ง จึงอยากเรียกร้องให้สมาชิก กรรมการสมาคม ร่วมกันยืนหยัดต้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่จะเข้ามาฉุดการกีฬาสนุกเกอร์ให้ตกต่ำ กลับไปวนเวียนอยู่กับเรื่องการพนัน เป็นเรื่องอบายมุขการมั่วสุมกันอีก”
นายศักดา กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนปัญหาภายในที่มีการร้องเรียน หรือเรื่องส่วนตัวของกรรมการ เป็นเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ กระบวนการยุติธรรมที่จะพิจารณา ไม่อยากให้นำมาดิสเครดิตใครในช่วงนี้