นายนีเลช เจน รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย เทรนด์ไมโคร เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ทำให้รูปแบบการทำงานภายในองค์กรได้เปลี่ยนเข้าสู่การทำงานจากระยะไกล หรือ เวิร์ค ฟรอม โฮม  ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านการรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่ เนื่องจากมีผู้คุกคามจำนวนมากขึ้น ที่พยายามที่จะฉวยโอกาสจากภาวะการณ์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19  โดยพบ การเพิ่มขึ้นจำนวนมากของอีเมลต้มตุ๋น สแปม และการล่อลวงแบบฟิชชิงที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวิกฤติเป็นต้นมา ซึ่งอาชญากรไซเบอร์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะฉวยโอกาสและออกแคมเปญที่ใช้โคโรน่าไวรัสเป็นธีมหลักในการโจมตีอย่างต่อเนื่อง

“จากนี้ไป โควิด-19 จะยังคงสร้างความท้าทายด้านการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับองค์กรธุรกิจทั่วโลก อาทิ การค้าอีคอมเมิร์ซที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาชญากรจะพยายามบุกเข้าไป ในระบบโลจิสติกส์ เนื่องจากการซื้อสินค้าออนไลน์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีการจัดส่งพัสดุเพิ่มขึ้น ตัวอาชญากรรม เช่น การก่อวินาศกรรม การผลิต การลักลอบขนส่ง (trafficking) และการขนส่งสินค้าลอกเลียนแบบ จะกลายเป็นแนวทางปฏิบัติที่เกิดขึ้น”

นายนีเลช กล่าวต่อว่า ในส่วนภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสุขภาพ หรือเฮลธ์แคร์ ความปลอดภัยด้านไอทีก็สำคัญ เนื่องจากทีแพทย์จำนวนมากหันไปใช้ระบบการรักษาทางไกล หรือ เทเลเมดิซีน และการให้บริการทางการแพทย์ จึงจำเป็นต้องจัดการกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลผู้ป่วยและการโจมตีของมัลแวร์ และ ความเป็นไปได้ของการจารกรรมทางการแพทย์ด้วย นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้แอพพลิเคชันเพื่อการส่งอาหาร หรือฟู้ด เดลิเวอรี่ ก็อยู่ในจุดที่สุ่มเสี่ยง ด้วยการงานที่พุ่งสูงกว่าเดิมถึง 25 %ในปีผ่านมา

ปิยธิดา ตันตระกูล

ด้าน น.ส.ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเกิดขึ้นของโควิด-19 กระตุ้นและเร่งกระบวนการปฏิรูปทางดิจิทัลในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ทำให้รูปแบบของภัยคุกคามเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งในปี 63 ที่ผ่านมา เทรนด์ไมโครได้ดำเนินการบล็อคภัยคุกคามที่เกิดขึ้นทั่วโลกเป็นจำนวน 62.6 พันล้านครั้ง หรือคิดเป็นตัวเลขประมาณ 119,000 ครั้งต่อนาที โดย 91 % ของภัยคุกคามเกิดจากอีเมล   และตรวจพบการโจมตีบนเครือข่ายภายในบ้าน หรือโฮม เน็ตเวิร์ค เพิ่มขึ้นถึง 210 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า   โดยกลุ่มที่ตกเป็นเป้าโจมตี คือ ภาครัฐ ธนาคาร อุตสาหกรรมการผลิต และ เฮลธ์แคร์

“ในยุคของการปฏิรูปทางดิจิทัล เทรนด์ไมโคร ในฐานะของผู้นำด้านการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ระดับโลก พร้อมนำเสนอ Trend Micro Vision One แพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ช่วยขยายการตรวจจับและการตอบสนองหรือที่เรียกว่า Extended Detection and Response (XDR) ที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้นให้กับองค์กร ตลอดจนให้การสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อการทำงานให้ได้ประสิทธิผลยิ่งขึ้นสำหรับธุรกิจ และสุดท้ายคือช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจ”