เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่คนไทย 7 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ทางการสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) จับกุม หลังจากไปเก็บของป่าในพื้นที่ช่องทางธรรมชาติ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี รุกล้ำเข้าไปฝั่งแขวงจำปาสัก สปป.ลาว และมีข่าวว่าทั้ง 7 คนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบ mRNA จากฝ่ายลาว ว่า หลังจากคนไทยกลุ่มดังกล่าวถูกจับกุมแล้ว ทางการ สปป.ลาวได้ประสานงานกับตำรวจชายแดน อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบชื่อผู้ถูกจับกุมทั้ง 7 คน และเมื่อทราบเรื่อง สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ซึ่งรับผิดชอบเขตอาณาดังกล่าว ได้ประสานงานกับแขวงจำปาสัก เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ถูกจับกุม และได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่าขณะนี้คนไทยทั้ง 7 คน อยู่ที่ศูนย์กักตัวหลัก 21 ของแขวงจำปาสัก โดยแผนกการต่างประเทศของแขวงจำปาสักได้มีหนังสือแจ้งการจับกุมคนไทยทั้ง 7 รายอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งคนไทยทั้ง 7 คน จะถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของ สปป.ลาว ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมาย และส่งตัวกลับประเทศไทยต่อไป
นายธานี กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีข่าวว่าสปป.ลาวได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คนไทยทั้ง 7 รายด้วยนั้น จากการตรวจสอบกับฝ่าย สปป.ลาว พบว่า สปป.ลาว ยังไม่มีการพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้คนไทยทั้ง 7 คน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชน ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานกงสุลใหญ่ไทยฯ จะประสานงานกับแขวงจำปาสักในการให้ความช่วยเหลือ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไทยทั้ง 7 ราย สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้โดยเร็ว