เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 กล่าวถึงกรณีที่กมธ.งบประมาณฯ มีมติให้นำเงินงบประมาณที่ปรับลดจำนวน 16,362 ล้านบาท ไปไว้ที่งบกลางว่า สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และสร้างผลกระทบกับประชาชนอย่างหนัก กมธ.งบประมาณฯ ส่วนใหญ่จึงมีความเห็นตรงกันว่า การขอเพิ่มงบประมาณ ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอมานั้นควรนำมาตั้งไว้ในส่วนของงบกลาง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่า เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด

นายประเสริฐ กล่าวว่า นอกจากนี้รัฐธรรมนูญมาตรา 144 กำหนดว่า ในการพิจารณางบประมาณ การเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำใดๆ ของ กมธ.งบประมาณฯ มีส่วนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย จะกระทำมิได้ โดย กมธ.งบประมาณฯ ในส่วนของพรรค พท. เห็นตรงกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณในข้อวิตกกังวลนี้ และเห็นว่าการนำงบประมาณส่วนนี้ไปไว้ในงบกลาง จะตัดข้อสงสัยว่า ส.ส.หรือ กมธ.งบประมาณฯ มีส่วนร่วมในการใช้งบประมาณไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

“การตัดสินใจของ กมธ.งบประมาณฯ ในส่วนของพรรค พท. ไม่เกี่ยวกับสถานภาพ หรือการยอมรับในตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดนี้ ที่พรรค พท. เห็นว่าไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน และกำลังจะยื่นญัตติเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจในเร็ววันนี้  อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการกลัวจนเกินเหตุเหมือนที่ กมธ.งบประมาณฯ ในส่วนของพรรคก้าวไกลกล่าวอ้าง แต่พรรค พท. ซึ่งผ่านการรัฐประหาร ผ่านการยุบพรรคและผ่านการต่อสู้ทางการเมืองมามากว่า 20 ปี ให้เกียรติ ส.ส. ในการตัดสินใจประเมินความเสี่ยงทางการเมือง” นายประเสริฐ กล่าว 

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า กมธ.งบประมาณฯ ในส่วนของพรรค พท. ได้ตั้งข้อสังเกตในการใช้งบกลางก้อนนี้ที่จะต้องใช้ตรงตามวัตถุประสงค์ คือ เป็นการใช้สำหรับการแก้ไขปัญหา เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยพรรค พท. จะดำเนินการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น งบกลาง หรือ งบประมาณรายจ่ายด้านอื่นๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยนายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรค พท. ซึ่งเป็นประธานคณะ กมธ.ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร อยู่จะติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้น 

“พรรค พท. ขอชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบว่า พรรคมีความอดทนอดกลั้นมาตลอดในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ที่ต้องการรักษาเอกภาพและบรรยากาศทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านไว้ให้ดีที่สุด ความคิดเห็นที่แตกต่างกันในกระบวนการทำงานเป็นสิทธิและความเห็นที่พรรคให้เกียรติพรรคร่วมฝ่ายค้านมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ตาม พรรค พท. เห็นว่าการไม่พูดข้อเท็จจริงให้รอบด้าน การพูดในที่ประชุมอย่างหนึ่งแล้วสื่อสารในโซเชียลมีเดียอีกอย่างหนึ่ง เป็นการสร้างความสับสน สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน อาจส่งผลต่อความหวังของพี่น้องประชาชนที่ต้องการเห็นพรรคร่วมฝ่ายค้านทำงานร่วมกัน เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สำเร็จ” นายประเสริฐ กล่าว.