ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ ห้องประชุมพระนิกรบดีด่านศุลกากรสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา กรมศุลกากรเปิดปฏิบัติการ “ยุทธการกำแพงพระนคร” (Narcoticsration Guardian)” ระหว่างไทยกับมาเลเชีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร พร้อมสร้างเครือข่ายต่างประเทศ เป็นการปิดกั้นเส้นทางการลักลอบขนยาเสพติดบริเวณชายแดนไทย

นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผอ.กองสืบสวนและปราบปราม เปิดเผยว่า จากปัญหากรลักลอบนำยาเสพติดข้ามประเทศไทยผ่านช่องทางศุลกากรทั้งทางท่าเรือ สนามบิน รวมถึงแนวชายแดนต่าง ๆ ยังคงปรากฏอย่างต่อเนื่อง กรมศุลกากรในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าส่งออกยาเสพติด อีกทั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติที่ 11/2564 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสกัดกั้นการลักลอบส่งออกและนำเข้ายาเสพติดผ่านช่องทางศุลกากร ซึ่งมีอธิบดีกรมศุลกากรเป็นประธานอนุกรรมการกรมศุลกากรจึงเร่งรัดดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเคลื่อนย้ายยาเสพติดข้ามชาติให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่ยังคงมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสื่อม เสียและเกิดผลกระทบต่อประเทศ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติดอย่างยั่งยืน

ผอ.กองสืบสวนและปราบปราม กล่าวอีกว่า “ยุทธการกำแพงพระนคร” (Narcotics Operation Guardian) เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อสกัดกั้นยาเสพติด ระหว่างศุลกากรไทย ศุลกากรมาเลเซีย ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ รวมถึงหน่วยงานความมั่นคง ตลอดจนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างเครือข่ายประสานงานระหว่างประเทศ โดยโครงการนี้จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนาย-กันยายน 2565 สำหรับวันนี้ เป็นการดำเนินโครงการครั้งแรก ระหว่างศุลกากรไทยกับศุลกากรมาเลเชีย และหน่วยงานความมั่นคงไทย-มาเลเซีย ที่ด่านศุลกากรสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

สำหรับครั้งต่อไปจะจัดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ภาคกลาง ที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และภาคเหนือ ที่ด่านศุสกากรแม่สาย จังหวัดเชียงราย ร่วมกับประเทศ สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา ตามลำดับ ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และการบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยสกัดกั้นการลักลอบขนส่งยาเสพติดข้ามแดน เพื่อปกป้องสังคมให้พ้นจากยาเสพติดได้อย่างยั่งยืนต่อไป