ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม จาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด จังหวัดในกลุ่มนี้ มีมาตรการที่เกี่ยวโดยตรงเกี่ยวกับกิจกรรมกีฬา คือ ห้ามรวมกลุ่มมากกว่า 5 คน และปิดสนามกีฬา ซึ่งสำหรับวงการฟุตบอลไทยนั้น เฉพาะในไทยลีก 1 มีถึง 11 สโมสร จากทั้งหมด 16 สโมสร ติดร่างแหอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ที่จะมีมาตรการถึงอย่างน้อยวันที่ 31 ส.ค. มีเพียง 5 สโมสร ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงราย และ 3 น้องใหม่ หนองบัว พิชญ, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ประชุมสโมสร และเลื่อนวันเปิดฤดูกาลจากกลางเดือน ส.ค. เป็นต้นเดือน ก.ย. และเตรียมทำแผนการจัดมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด เสนอให้ ศบค.อนุมัติ อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นการประชุมก่อนประกาศล่าสุดของ ศบค.

หลังการประกาศเพิ่มจังหวัดสีแดงเข้ม และขยายเวลามาตรการไปถึง 31 ส.ค. ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.ไทยลีก ได้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังรอไปคุยกับศบค. คิดว่าจะได้คิวภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ซึ่งมาตรการที่ออกมาเพิ่มเติม คิดว่าต่อให้เพิ่มจังหวัดล็อกดาวน์ หรือล็อกดาวน์ทั้งประเทศก็ไม่ได้มีผลอะไร เพราะอย่างไรก็ต้องทำแผนส่งอยู่แล้วแค่ต้องมาปรับแผนงานต่างๆ แล้วเอามาตรการนั้นไปเสนอกับศบค.หากได้อนุมัติ ก็ไปให้แต่ละสโมสร เอาแผนงานไปคุยกับทางจังหวัด

นายกรวีร์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้ หากเป็นกรณีเลวร้ายสุดคือไม่ได้รับอนุมัติแผนงาน ก็ต้องเลื่อนแข่งขันออกไปเรื่อยๆ ทั้งนี้โจทย์สำคัญคือทำอย่างไรให้ฟุตบอลกลับมาแข่งขันให้ได้ และยังเชื่อว่าศบค.คงไม่ถึงกับจะไม่ให้จัดแข่งขัน แต่อยู่ที่มาตรการว่ารัดกุมเพียงใด.