การแข่งขันสควอชเยาวชน ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 29 ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน จ.ชลบุรี โดยมีนายอัครินทร์ หิรัญพฤกษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขัน พร้อมมอบรางวัลให้แก่นักกีฬา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพิธีปิดจัดขึ้นแบบเรียบง่าย ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยนักกีฬาสควอชไทย คว้ารางวัลมาได้หลายคน นำโดย ภีมวัชช์ พูนศิริภัค คว้าที่ 3 รุ่นอายุ 13 ปีชาย, ณพชนก บูรณะกูล คว้าแชมป์ สายล่าง รุ่นอายุ 15 ปีชาย, ธนกฤต วัลลภาทิต คว้ารองแชมป์ 2 รุ่นอายุ 15 ปีชาย, สุรวุฒิ บุสทิพย์ คว้าที่ 3 รุ่นอายุ 15 ปีชาย, อริญชญา ชูจิตต์ คว้าที่ 3 รุ่นอายุ 17 ปีหญิง และ ณัฐพัฒน์ ถีระศิลป์ คว้าที่ 3 รุ่นอายุ 17 ปีชาย
นายอัครินทร์ หิรัญพฤกษ์ กล่าวว่า ภาพรวมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันสควอชเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชียครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นมาตรการป้องกันโควิด-19 ก็ไม่ได้มีการแพร่เชื้อใดๆ ส่วนของนักกีฬาไทย ก็ได้ประสบการณ์ที่ดีในการแข่งขันและมีผลงานเป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประเทศอื่นๆ ต่างพอใจ อยากให้เราเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันอีก นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่เราจะกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทยได้อีกครั้ง ผ่านทางกีฬาสควอช
“นักกีฬาสควอชไทย ที่ส่งเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ ส่วนมากเป็นชุดเตรียมเอเชี่ยนเกมส์ 2022 ที่จีน บางคนในกลุ่มที่เราไม่ได้คาดหวังมากนัก กลับทำผลงานได้ดีเกินคาด ส่วนนักกีฬาเป้าหมายส่วนมากก็ทำได้ตามเป้า แต่ก็ยังมีบางคนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน เพราะเป็นครั้งแรกของหลายคนที่ได้ลงแข่งขันรายการระดับนานาชาติ แต่ผมเชื่อว่า ทุกคนจะได้ประสบการณ์ที่ดีกลับไปพัฒนาตัวเอง และเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ทราบจุดแข็งจุดอ่อนของนักกีฬา เพื่อที่ทีมงานผู้ฝึกสอนจะต้องนำไปศึกษาหาแนวทางพัฒนาเพิ่มศักยภาพให้นักกีฬาต่อไป”
พ่อบ้านกีฬาสควอชไทย กล่าวต่อว่า เอเชี่ยนเกมส์ 2022 ที่เลื่อนการแข่งขันออกไปนั้น ทำให้เรามีเวลาแก้ไขจุดบกพร่องเพิ่มขึ้นเพื่อให้พร้อมที่สุดสำหรับการแข่งขัน ทั้งนี้ สมาคมฯ ยอมรับว่านักกีฬาสควอชชุดเอเชี่ยนเกมส์ ยังมีจุดอ่อนที่ต้องปรับอีกหลายจุด โดยทีมสควอชต่างชาติที่มาแข่งรายการนี้ ส่วนมากเอานักกีฬาชุดใหญ่มาแข่งขัน ซึ่งฝีมือจะค่อนข้างดีกว่านักกีฬาไทย ที่ส่วนมากยังเป็นเยาวชนและเพิ่งจะได้ลงแข่งขันเป็นครั้งแรก แต่นับเป็นเรื่องที่ดีที่เด็กไทยจะได้ประสบการณ์ไปปรับใช้ในรายการใหญ่
“หลังจากนี้นักกีฬาสควอชชุดสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ จะเก็บตัวฝึกซ้อมต่อทันที สมาคมฯ วางแผนพานักกีฬาไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่มาเลเซีย เพราะเราเห็นว่าในรายการนี้ มาเลเซียมีผลงานที่ดีมาก และยังเป็นทีมแนวหน้าของอาเซียน ซึ่งไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับมาเลเซีย จะนำทีมสควอชไทยไปฝึกซ้อมเก็บเกี่ยวแทคติกต่างๆ หวังว่าจะพัฒนาได้เท่าเทียมกับเขาในสักวัน”
สำหรับซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันในปี 2568 สมาคมฯ คาดหวังว่านักกีฬาสควอชชุดนี้ โดยเฉพาะสายเลือดใหม่จะอยู่ในช่วงที่พีคพอดี โดยเยาวชนเหล่านี้จะมีอายุที่เหมาะสมอยู่ในวัยที่พัฒนาได้มากขึ้น ช่วงอายุ 19-20 ปี จะเริ่มเข้าสู่มหาวิทยาลัย นักกีฬาจะมีเวลาซ้อมมากขึ้น สมาคมฯ มั่นใจว่าในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 นักกีฬาสควอชไทย จะไม่น้อยหน้า จะคว้าได้หลายเหรียญทองได้อย่างแน่นอน