สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เปิดเผยผลการสำรวจที่ระบุว่า นักเตะเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ที่ลงเล่นในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศศึกยูโร 2020 เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว รวมถึงรอบตัดเชือกและรอบชิงชนะเลิศศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้น ตกเป็นเหยื่อของการเหยียดผิวในโลกโซเชียล
รายงานดังกล่าว ซึ่ง ฟีฟ่า ร่วมมือกับสหภาพนักเตะหรือ “ฟิฟโปร” เพื่อระบุตัวคนที่เหยียดผิวนักเตะนั้น เผยว่ามีการโพสต์ข้อความเหยียดผิวนักเตะที่ลงเล่นในรอบตัดเชือกและรอบชิงดำ 2 ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวถึงกว่า 400,000 ครั้ง โดยคนที่โดนมากที่สุดคือบรรดานักเตะผิวสีของทีมชาติอังกฤษ ที่ยิงจุดโทษไม่เข้าในรอบชิงชนะเลิศยูโร ทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจดอน ซานโช และ บูกาโย ซากา
ด้วยเหตุนี้ ฟีฟ่า และ ฟิฟโปร จึงเตรียมมาตรการในการรับมือกับการเหยียดผิวออนไลน์ ระหว่างการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ โดยจะมีการสแกนข้อความที่สร้างความเกลียดชังบนแอคเคาท์ต่าง ๆ ในโลกโซเชียล ก่อนจะมีการดำเนินการเพื่อไม่ให้มีการมองเห็นข้อความเหล่านั้นต่อไป
จานนี อินฟานติโน ประธาน ฟีฟ่า กล่าวว่า “หน้าที่ของเราคือการปกป้องเกมฟุตบอล เริ่มด้วยการปกป้องนักเตะที่เป็นผู้สร้างความสนุกและความสุขให้กับเราทุกคน ด้วยการโชว์ลีลาในสนาม โชคร้ายที่ตอนนี้มันมีกระแสการโพสต์ข้อความบนโลกโซเชียลหลายช่องทางเพื่อโจมตีนักเตะ โค้ช ทีมผู้ตัดสิน รวมถึงทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ การแบ่งแยกทั้งหลายจะต้องไม่มีที่ยืนในเกมฟุตบอล”
เครดิตภาพ : REUTERS