สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ออกมาเปิดเผยรายชื่อ 16 เมืองที่จะได้รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในศึกฟุตบอลโลก 2026 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 11 เมืองในสหรัฐอเมริกา 3 เมืองในเม็กซิโก และ 2 เมืองในแคนาดา ขณะที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงแดนลุงแซม หลุดโผไปอย่างน่าเสียดาย
สำหรับฟุตบอลโลก 2026 จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีเจ้าภาพร่วมถึง 3 ชาติ รวมถึงเป็นครั้งแรกที่จะมีจำนวนทีมร่วมฟาดแข้งถึง 48 ทีมด้วย โดยในช่วงเริ่มต้นกระบวนการคัดเลือกนั้น มีเมืองที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพถึง 44 เมือง ก่อนที่สุดท้าย ฟีฟ่า จะเลือก 16 เมืองให้รับหน้าที่ในที่สุด
จานนี อินฟานติโน ประธานองค์กรลูกหนังโลก กล่าวว่า “นี่คือกระบวนการเลือกเมืองเจ้าภาพฟุตบอลโลกที่มีการแข่งขันสูงที่สุด และเราก็ทำงานกันเป็นทีม เพื่อให้แน่ใจว่า ทีมต่าง ๆ รวมถึงแฟนบอล จะไม่ต้องเดินทางไกลจนเกินไป”
สำหรับ 16 เมืองที่ได้รับเลือกนั้น แบ่งเป็น 11 เมืองในสหรัฐ ประกอบด้วย นิวยอร์ก (เมตไลฟ์ สเตเดี้ยม), ลอส แอนเจลิส (โซไฟ สเตเดี้ยม), ดัลลัส (เอที แอนด์ ที สเตเดี้ยม), ซาน ฟรานซิสโก (ลีวายส์ สเตเดี้ยม), ไมอามี (ฮาร์ดร็อก สเตเดี้ยม), แอตแลนตา (เมอร์เซเดส-เบนซ์ สเตเดี้ยม), ซีแอตเทิล (ลูเมน ฟิลด์), ฮูสตัน (เอ็นจีอาร์ สเตเดี้ยม), ฟิลาเดลเฟีย (ลินคอล์น ไฟแนนเชียล ฟิลด์), แคนซัส ซิตี (แอร์โรว์เฮด สเตเดี้ยม) และ บอสตัส (ยิลเลตต์ สเตเดี้ยม)
ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นเม็กซิโก 3 เมือง ประกอบด้วย เม็กซิโกซิตี (เอสตาดิโอ อัซเตกา), กัวดาลาฮารา (เอสตาดิโอ อาครอน) และ มอนเตอร์เรย์ (เอสตาดิโอ บีบีวีเอ บานโคเมอร์) และ แคนาดา 2 เมือง ประกอบด้วย โตรอนโต (บีเอ็มโอ ฟิลด์) และ แวนคูเวอร์ (บีซี เพลส) อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่า ยังไม่ได้มีการกำหนดเมืองที่จะเป็นเจ้าภาพเกมนัดเปิดสนาม และนัดชิงชนะเลิศแต่อย่างใด
เครดิตภาพ : Getty Images