ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต เปิดเผยว่า จากการที่ ม.เกษมบัณฑิต ภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) การจัดโครงการเสวนาทางวิชาการเรื่อง “ถอดบทเรียนทัพนักกีฬาไทยในฮานอยเกมส์ 2021” ผ่านระบบออนไลน์และไลฟ์สดทางเพจเฟชบุ๊คศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ในการเสวนาดังกล่าวได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและบุคลากรในวงการกีฬา เข้าร่วมท่ามกลางผู้ที่สนใจติดตามกันอย่างคับคั่ง ซึ่งในวงเสวนาวิทยากรที่เข้าร่วมได้ปันความคิดในมิติที่หลากหลายมีประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนและต่อยอดไปสู่การพัฒนาวงการกีฬาไทยอย่างน่าสนใจยิ่ง

รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต ในฐานะรองหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย กล่าวว่า ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม แม้นักกีฬาไม่สามารถทำเหรียญทองได้ตามเป้าหมายก็ตาม แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง และต้องชื่นชมนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา รวมทั้ง กกท. ที่ผนึกพลังร่วมมุ่งมั่นและทุ่มเทเพื่อประเทศชาติ และหวังว่าในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา และครั้งที่ 33 ที่ไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนั้น เชื่อว่าผลงานนักกีฬาภายใต้การมีส่วนร่วมของประชนและทุกองคาพยพ ผลงานของนักกีฬาคงจะก้าวไปสู่เป้าหมายดังที่สังคมคาดหวัง สำหรับการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี 2025 นั้น นับจากนี้ไปมีเวลาอีกไม่นาน ผู้มีหน้าที่หรือคณะกรรมการพิจารณสถานที่ หรือเมืองที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน คงจะได้เตรียมการเพื่อให้ได้ข้อยุติในเร็วๆ นี้

ทางด้าน นายปรีชา ลาลุน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. กล่าวว่า ซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา กกท. ในฐานะเป็นผู้มีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนการเตรียมการนักกีฬา ได้มีการประสานร่วมกับสมาคมกีฬาเพื่อวางแผนในการเก็บตัวฝึกซ้อมภายใต้ยุทธศาสตร์ของ กกท. ที่สอดรับกับแนวนโยบายแห่งรัฐ ซึ่งก่อนการเข้าสู่การแข่งขันมีการคาดหวังว่านักกีฬาไทย จะสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จในหลากหลายชนิดกีฬาโดยเฉพาะชนิดกีฬาสากลที่มีการแข่งขันในเอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ แต่เมื่อผลที่ออกมาไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จากนี้ไปคงจะต้องกลับมาวิเคราะห์หรือถอดบทเรียนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาและยกระดับให้ก้าวไปสู่ทิศทางที่ดีกว่าต่อไป ที่น่าสนใจเมื่อกล่าวถึงเมืองหรือสถานที่ที่ไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งที่ 33 นั้น ขณะนี้มีหลายจังหวัดที่พร้อมในการจะเป็นเจ้าภาพเริ่มเสนอตัวเข้ามาบ้างแล้ว ซึ่งคงจะเป็นการพิจารณาของคณะกรรมการว่าจังหวัดหรือเมืองใด เหมาะสำหรับการเป็นเจ้าภาพต่อไป

ขณะที่ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิทางการกีฬาและรองประธานมวยไทย IBF กล่าวว่า ในฐานะที่คลุกคลีกับวงการกีฬามาอย่างยาวนานใน “ฮานอยเกมส์” ครั้งนี้ต้องยอมรับว่าในภาพรวมคณะนักกีฬาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติได้อย่างน่าชื่นชมยิ่ง แต่ส่วนที่เห็นว่ายังเป็นจุดอ่อนหรือเป็นอุปสรรคที่ส่งผลกระทบอยู่บ้างนั้นคงเป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้นำในสมาคมกีฬาต่างๆ จะต้องดำเนินการหรือบริหารจัดการเพื่อนำไปสู่เป้าหมายหรือผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวังต่อไป ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าสมาคมใดที่ยังก้าวไปไม่ถึงเป้าหมาย นายกสมาคมกีฬา ซึ่งอาสาเข้ามาเพื่อวงการกีฬาจะต้องได้ตระหนักในบทบาทหน้าที่พร้อมทั้งศึกษาและสร้างความเข้าใจในบริบทของโลกกีฬายุคใหม่ เข้าถึงและเป็นที่พึงของนักกีฬา ผู้ฝึกสอนตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง หากเป็นได้ดังว่าเชื่อว่า ในซีเกมส์หรือทุกๆ รายการที่นักกีฬาไทย เข้าร่วมผลงานคงจะออกมาดีกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน