ตามที่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย มีโปรแกรมแข่งขันในปีนี้ 2 รายการหลักๆ คือ ฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย วันที่ 23-31 ต.ค. และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ” ที่แข่งเดือนธ.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสกันว่า ทีมชาติไทยอาจพิจารณาใช้นักเตะรุ่นอายุต่ำกว่า ไปแข่งขันแต่ละรายการ คือ ศึก 23 ปีรอบคัดเลือก จะใช้รุ่น 21 ปี และศึกซูซูกิคัพ ใช้รุ่น 23 ปี
อย่างไรก็ตาม “โจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวกับ “กีฬาเดลินิวส์” ว่า กระแสดังกล่าว ยังไม่ได้เป็นแนวทางของสมาคมฯ เรื่องนี้เกิดจากการประชุม บริษัท ไทยลีก จำกัด กับสโมสร ที่ประเด็นหลักคือเรื่องกำหนดโปรแกรมไทยลีก ฤดูกาลใหม่ มาจากที่แต่ละสโมสรอยากให้ สมาคมฯ ตั้งเป้าให้ชัดไปเลย ว่าแต่ละชุดจะใช้นักกีฬารุ่นไหน เพราะการไปแข่งขันก็จะมีปัญหากักตัว 14 วัน เมื่อกลับมาไทย อย่าง ซูซูกิคัพ ถ้าไม่เล่นในไทย ก็จะกระทบแน่นอน แม้ไทยลีกจะเว้นโปรแกรมไว้ให้ และรอบชิงฯ จบก่อนเปิดเลก 2 แต่เมื่อกลับมาก็มีปัญหากักตัวอีก
“เรื่องนี้มาจากสโมสรเสนอขึ้นมา โดยสมาคมฯ มีรายชื่อนักกีฬากลุ่มใหญ่อยู่แล้ว อย่างชุด 23 ปี ภายในกลางเดือน ส.ค. ก็จะส่งให้สโมสรดูว่าใครอยู่ในข่าย ซึ่งจะมีนักเตะตั้งแต่อายุ 23 ปีลงไป เมื่อสมาคมฯ ส่งไป ก็อยู่ที่สโมสรจะพิจารณาว่าสะดวกอย่างไร ดังนั้นทางสโมสรก็อยากให้สมาคมฯ กำหนดเป้าหมายชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณา เรื่องนี้ต้องคุยกันหมดอีกครั้ง ทั้ง โค้ช, สมาคม และสโมสร เราต้องตัดสินใจร่วมกัน เพราะตอนนี้ความอยู่รอดของสโมสร อันส่งผลถึงนักกีฬาเป็นเรื่องสำคัญ”
สำหรับศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ที่มีแววว่าจะปรับการแข่งขันมาเป็นมีเจ้าภาพชาติเดียวนั้น นายพาทิศ กล่าวว่า หากจะปรับมาเป็นเจ้าภาพเดี่ยวจริง แล้วถ้าทุกอย่างเอื้ออำนวย หากไทยจะขอเป็นเจ้าภาพได้ก็จะทำ เพื่อตัดปัญหาเรื่องกักตัว 14 วัน เมื่อกลับมาถึงไทย ซึ่งหากไม่มีปัญหาเรื่องการกักตัว ก็เชื่อว่าสโมสรจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการปล่อยตัว.