เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ พ.ต.ท.ชยชัย นาธนกาญจน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วงษ์นคร สว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัวนายวิชัยยุทธ หรือแบงค์ ศุกกระกาญจน์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 322/2565 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 2565 ฐานความผิด “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยมีและใช้อาวุธมีดปลายแหลม และบุกรุกเข้าไปในเคหสถานในยามวิกาล” โดยจับกุมตัวได้ในห้องเช่าที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง หมู่ 12 ซอยโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดีจำนวน 3 ราย ได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ว่าถูกคนร้ายเป็นชายได้เข้าไปข่มขืนในห้องพัก โดยรายแรกเกิดเหตุเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 28 พ.ค. ที่หญิงสาว ซึ่งทำงานโรงงาน อายุ 30 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารหอพักแห่งหนึ่ง ในย่าน ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง ส่วนรายที่สอง เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. เป็นหญิงสาวทำงานเป็นสาวโรงงาน วัย 34 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ แห่งหนึ่งในย่าน ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง และรายที่สาม เวลา 03.00 น.วันที่ 3 มิ.ย. เป็นหญิงสาวนักศึกษา อายุ 21 ปี ซึ่งพักอยู่ที่ชั้นสองของคอนโดแห่งหนึ่ง ในย่าน ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง ซึ่งในครั้งนี้กล้องวงจรปิดของคอนโดดังกล่าวสามารถบันทึกพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าผู้ก่อเหตุจะพยายามใช้ผ้าใบปิดบังใบหน้าเอาไว้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าวและรวบรวมหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด จนกระทั้งในวันนี้ได้ทราบตัวผู้ก่อเหตุชายนายวิชัยยุทธ พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง หมู่ 12 ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จึงรวบรวมหลักฐานเข้าขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำหมายจับเข้าทำการจับกุมตัวเอาไว้ได้ ก่อนคุมตัวมาทำการสอบปากคำที่โรงพัก สภ.สำโรงใต้
ด้านหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้เล่าว่า เธอถูกผู้ต้องหารายนี้บุกเข้ามาบังคับข่มขืน คืนวันเกิดเหตุคือวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลากลางดึกขณะที่เธอกำลังนอนพักผ่อนอยู่นั้น ได้ยินเสียงคล้ายมีคนเข้ามาในห้อง ตอนแรกก็เข้าใจว่าเป็นแฟนหนุ่ม เนื่องจากแฟนเข้ากะดึก ไม่นานผู้ต้องหารายนี้ก็มานอนข้างๆบนที่นอน พอตนเองเอ่ยปากว่าชายคนดังกล่าว ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นแฟนหนุ่ม ว่าไม่ทำงานหรือทำโอทีหรืออย่างไร แต่ผู้ต้องหาตอบกลับมาว่าไม่ทำเพราะเหนื่อย ซึ่งตอนนั้นตนเองเริ่มรู้สึกไม่ดีเพราะเสียงที่ได้ยิน ไม่ใช่เสียงแฟนหนุ่มของตน พอตนเองเอามือไปจับมือผู้ต้องหาในขณะนั้น ก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่แฟนหนุ่มแน่เพราะแฟนไม่ใส่เสื้อแขนยาว จึงพยามลุกหาโทรศัพท์เพื่อเปิดแสงไฟมองหน้าชายคนดังกล่าว แต่กลับถูกบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร โดยคนร้ายอาศัยจังหวะที่ตนเองไปเข้าห้องน้ำได้ปีนหนีกลับออกไปด้านหลังของห้องพักทางท่อระบายน้ำ หลังเกิดเหตุจึง เดินทางมาแจ้งความ จนกระทั่งทราบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายและตำรวจสามารถตามจับตัวได้ ยอมรับว่าดีใจที่จับตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ เพราะถือเป็นภัยสังคมอย่างสูง
ขณะที่ พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ เปิดเผยว่า ในเคสนี้ผู้ต้องหาถือว่าเป็นภัยต่อสังคม จากการที่ได้สอบถามทางผู้ต้องหาได้ให้การว่า การเลือกเหยื่อเขาก็จะตระเวนดูตามหอพัก โดยจะดูลาดเลาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ และดูว่ามีกล้องจรปิดตรงไหนบ้าง นอกจากนี้จะดูที่หลังระเบียงหลังห้องว่ามีการตากผ้าของผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเห็นว่าเป็นของผู้หญิง ก็จะเล็งเอาไว้และเลือกหอพักที่สามารถปีนระเบียงด้านหลังขึ้นไปได้ ก่อนเลือกลงมือก่อเหตุในช่วงเวลากลางคืน และในขณะก่อเหตุก็จะใช้ปลอกหมอนหรือผ้าที่อยู่ในห้องของผู้เสียหายเอามาปิดหน้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้จำใบหน้าได้
มีรายงานว่า ระหว่างที่คุมตัวนายวิชัยยุทธ มาถึงโรงพัก อยู่ๆ ญาติของผู้เสียหายที่เดินทางมารอดักอยู่ ได้พุ่งเข้ารุมทำร้ายผู้ต้องหาทันที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันตัวผู้ต้องหาเข้าห้องสืบสวนอย่างชุลมุนออกจากที่เกิดเหตุทันที.