สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่า การตัดสินใจในข้อตกลงพอร์ตชาร์จของโทรศัพท์มือถือ ที่เป็นครั้งแรกของโลกนั้น มีผลบังคับใช้ช่วงปลายปี 2567 โดยอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาทั้งหมดต้องใช้หัวชาร์จแบบ USB-C เท่านั้น อย่างไรก็ดี สินค้าที่ผลิตและจำหน่ายก่อนกฎดังกล่าวมีผลบังคับใช้ จะได้รับการยกเว้น
แม้จะมีความกังวลว่า การบังคับใช้พอร์ต USB-C เป็นมาตรฐานของสายชาร์จ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก แต่อียูเชื่อว่า สายเคเบิลมาตรฐานสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมด จะช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้หลายพันตัน และแก้ปัญหาการร้องเรียนจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล และแบบแอนดรอยด์ ซึ่งใช้อุปกรณ์ชาร์จคนละแบบ
We have a deal on the common charger! ????????
— European Commission ???????? (@EU_Commission) June 7, 2022
This means more savings for EU consumers and less waste for the planet:
???? mobile phones, tablets, cameras… will all use USB type C
???? harmonised fast-charging technology
???? unbundling of sale of chargers #SingleMarket #DigitalEU pic.twitter.com/qw2cJV4RY0
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นองค์การฝ่ายบริหารของอียู เริ่มผลักดันพอร์ตชาร์จเดียวมาตั้งแต่ 10 ปีก่อนแล้ว แต่หลายบริษัท รวมถึงแอปเปิล ต่างไม่เห็นด้วยกับวิธีแก้ปัญหานี้ โดยให้ความเห็นว่ากฎการบังคับใช้ตัวชาร์จสากลเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล อีกทั้งยังทำให้นวัตกรรมล่าช้า และสร้างมลพิษมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม อีซีให้เหตุผลว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยทำให้เทคโนโลยีใหม่ เช่น การชาร์จแบบไร้สาย เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยรักษาทรัพยากรและคลายความกังวล และสร้างการเติบโตโดยไม่ปล่อยให้นวัตกรรมกลายเป็นแหล่งของการแยกย่อยตลาดและความลำบากของผู้บริโภค
“หลังผ่านมา 10 ปี ในที่สุด พอร์ต USB-C มาตรฐานอันเดียวจะสามารถชาร์จอุปกรณ์ทุกอย่างได้ทั้งหมด” นางแอนนา คาวาซซินี สมาชิกสภายุโรปจากพรรคกรีนส์ ทวีตข้อความ.
เครดิตภาพ : REUTERS