เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ช่วงนี้พบว่า การระบาดโควิด-19 มีแนวโน้มลดลง และภายหลังรัฐบาลได้มีการผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไม่ต้องลงทะเบียนไทยแลนด์พาส เดินทางเข้าในพื้นที่เฉลี่ยวันละ 3,000-4,000 กว่าคน โดยนักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสแล้วยังต้องกลับมาที่อำเภอเบตงอีก เพราะเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งสายหมอก” และมีอากาศเย็นตลอดปี มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทำให้สถานประกอบการในพื้นที่ ที่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากการระบาดของโควิดที่ผ่านมา 

ด้านนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้กำชับตำรวจภูธร ตำรวจท่องเที่ยว และฝ่ายปกครอง ให้เข้มงวดความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในช่วงนี้ และชวนคนในพื้นที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างภาพลักษณ์ กระตุ้นรายได้เข้าพื้นที่ หลังซบเซากว่า 2 ปี 

นอกจากนี้ยังพบว่า ลักษณะการท่องเที่ยวตอนนี้จะเปลี่ยนไป จากที่เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ก็จะเริ่มกลุ่มเล็ก และเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวมีการกระจายพักค้างแรมทั้งในเขตเทศบาลเมืองเบตง ร้อยละ 50.50  ในพื้นที่ตําบลอัยเยอร์เวง ร้อยละ 32.50 และไม่ได้พักค้างแรม เดินทางไปเช้า-เย็นกลับ ร้อยละ 17.00 โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ร้อยละ 66.00 ใช้เวลาในการท่องเที่ยวในอําเภอเบตง ประมาณ 1-2 วัน รองลงมาร้อยละ 29.75 ใช้เวลาในการท่องเที่ยวที่ในอําเภอเบตง และอำเภอใกล้เคียง ประมาณ 3-5 วัน และมีเพียงร้อยละ 4.25 เท่านั้น ที่ใช้เวลาในการท่องเที่ยวในอําเภอเบตงมากกว่า 6 วัน

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเภอเบตง ส่วนใหญ่จะนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มากที่สุด