เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวโครงการพัฒนานักกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ หรือ สปอร์ตฮีโร่ (Sports Hero) เพื่อพัฒนานักกีฬาดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูง มุ่งสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 (ปารีส) ที่ห้องประชุม ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดย นายพิพัฒน์ กล่าวว่า โครงการสปอร์ตฮีโร่ จัดขึ้นเพื่อพัฒนานักกีฬาดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูง มุ่งสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ถือเป็นโครงการในการวางรากฐานการสร้างนักกีฬา เพื่อต่อยอดไปสู่การคัดตัวเป็นนักกีฬาทีมชาติในอนาคต โครงการฯ เริ่มต้นจากค้นหานักกีฬาดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์ รวมถึงผู้ฝึกสอนกีฬาชนิดต่างๆ เข้ามาฝึกอบรมและพัฒนา โดยนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาใช้พัฒนาตัวนักกีฬาและผู้ฝึกสอน เพื่อให้ก้าวไปสู่การแข่งขันระดับชาติและนานาชาติ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไป
ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการของ กกท. ดำเนินการร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายโอลิมปิกเกมส์ โดยการคัดเลือกชนิดกีฬาที่เคยเข้าร่วมและมีผลงานจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ย้อนหลัง 3 ครั้ง และร่วมกันสรรหา คัดเลือก นักกีฬาที่มีผลงานโดดเด่น หรือนักกีฬาผู้มีพรสวรรค์ หรือนักกีฬาที่มีรูปร่างเหมาะสมกับชนิดกีฬานั้นๆ จากจังหวัดต่างๆ นำมาเก็บตัวฝึกซ้อม ในศูนย์ฝึกกีฬาที่มีรูปแบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน National Training Center (NTC) และจัดให้มีการพัฒนาศักยภาพเต็มเวลาระยะยาว 4 ปี ด้วยกระบวนการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา รวมถึงการนำระบบการติดตามและประเมินผลการฝึกซ้อม (Athletes Monitoring System/AMS) อย่างใกล้ชิดและทันสมัย ทำให้เกิดการบูรณาการ การทำงานอย่างแท้จริง โดยระบบ AMS จะเป็นตัวช่วยบันทึกข้อมูล ด้านสุขภาพ การทดสอบสมรรถภาพทางกาย การฝึกซ้อม การบาดเจ็บ และจะช่วยวิเคราะห์และประเมินผล ถึงความพร้อมและความสมบูรณ์ของร่างกายนักกีฬา โดยการมีผู้ฝึกสอน นักสรีรวิทยา และนักกายภาพบำบัด ทำงานร่วมกันบนระบบ AMS นี้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงทีอีกด้วย
นอกจากนี้ กกท. ยังได้รับความร่วมมือจากสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย 17 สมาคม ปัจจุบันในโครงการฯ มีทั้งหมด 8 ชนิดกีฬาที่ได้รับการคัดเลือก ได้แก่ ว่ายน้ำ, กรีฑา, แบดมินตัน, มวยสากล, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, ยกน้ำหนัก และยิงปืน ซึ่งล้วนแต่เป็นกีฬาสากล ที่มีการแข่งขันในมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ทั้งซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ ล่าสุดในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม นักกีฬาไทยได้สร้างชื่อเสียงเป็นอย่างมากได้รับ 90 ทอง 102 เงิน 133 ทองแดง ซึ่งครั้งนี้นักกีฬาในโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน รวม 18 คน จาก 7 ชนิดกีฬา ทำผลงานคว้ามาได้ 10 ทอง 12 เงิน 12 ทองแดง
ตามรายชื่อดังต่อไปนี้ ภูริพล บุญสอน (กรีฑา) 3 ทอง, ปณชัย ใจจุลละ (เทควันโด) 1 เงิน, จิณห์นิภา เสวตรบุตร (เทเบิลเทนนิส/ทีมหญิง) 1 ทอง, วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน (เทเบิลเทนนิส/ทีมหญิง) 1 ทอง, วิรากานต์ ทายะพิทักษ์ (เทเบิลเทนนิส/ทีมหญิง) 1 ทอง, เจเดน จิตรวีร์ เหมาะประเสริฐ (ยิงปืน) 1 ทอง, เณศรา จำปารัตน์ (ยิงปืน) 1 ทองแดง, นวพรรษ วงค์เจริญ (ว่ายน้ำ) 1 เงิน 2 ทองแดง, เจนจิรา ศรีสอาด (ว่ายน้ำ) 2 ทอง 3 เงิน 1 ทองแดง, ต้นน้ำ กันตีมูล (ว่ายน้ำ) 2 ทองแดง, ดุลยวัต แก้วศรียงค์ (ว่ายน้ำ) 1 เงิน 2 ทองแดง, กมลชนก ขวัญเมือง (ว่ายน้ำ) 1 ทอง 3 เงิน 1 ทองแดง, จินห์จุฑา ผลแจ่มจำรัส (ว่ายน้ำ) 2 เงิน 2 ทองแดง, มานิตา เสถียรโชควิศาล (ว่ายน้ำ) 1 เงิน, พณิชพล ธีระรัตน์สกุล (แบดมินตัน/ทีมชาย) 1 ทอง, พรรคพล ธีระรัตน์สกุล (แบดมินตัน/ทีมชาย) 1 ทอง, พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ (แบดมินตัน/ทีมหญิง) 1 ทอง และ นิลดา มีคุณ (มวยสากล) 1 ทองแดง
ทางด้าน พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า คณะกรรมการโอลิมปิคฯ ขอร่วมแสดงความยินดีกับนักกีฬาทุกคนที่ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติในการแข่งขันในทุกๆ รายการ และนักกีฬาของโครงการสปอร์ตฮีโร่ ยังคงเป็นกำลังหลักในการแข่งขันในระดับนานาชาติ รวมไปถึงการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ต่อไปในอนาคต ต้องขอบคุณโครงการสปอร์ตฮีโร่ ของ กกท. ที่ช่วยกันเฟ้นหาพัฒนาและดูแลนักกีฬารวมทั้งผู้ฝึกสอน และหวังให้นักกีฬาทุกคนจะสามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอีกครั้งในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่จะถึงนี้