“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ระบุว่า เงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 15 เดือนครึ่งที่ 32.99 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์โดยเงินบาทอ่อนค่าลงท่ามกลางความกังวลต่อการเร่งตัวขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่สร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการรองรับสถานการณ์ของระบบสาธารณสุขไทย นอกจากนี้เงินบาทยังเผชิญแรงขายตามค่าเงินหยวนและบางสกุลเงินในภูมิภาคในช่วงต้นสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าและฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วน หลังผลการประชุมเฟดที่สะท้อนว่า เฟดน่าจะยังไม่รีบคุมเข้มนโยบายการเงินในอนาคตอันใกล้กดดันเงินดอลลาร์ ให้อ่อนค่าลง ทั้งนี้ปิดตลาดเมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.87 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.65-33.10 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 4 ส.ค., อัตราเงินเฟ้อของไทยเดือน ก.ค. รวมถึงสถานการณ์และมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศ

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชนรายงานโดย ADP ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือน ก.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน มิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ ตลอดจนการรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือน ก.ค. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษด้วยเช่นกัน