เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนพงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงถึงกรณี กมธ.งบประมาณ 2565 ผ่านงบประมาณในส่วนกองทัพเรือ ในส่วนที่ฝ่ายค้านของตัดงบซื้อโดรนและอาวุธอื่นๆ กว่า 5,000 ล้านบาท ว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ ไม่ใช่สถานการณ์ของการสู้รบ หลายโครงการจึงควรถูกปรับลดงบลง เช่น โครงการจัดหาเรือ LPD ระยะที่สอง เป็นต้น โครงการจัดซื้อเรือสนับสนุนเรือดำน้ำ LPD มี 2 ระยะ ระยะแรก วงเงิน 4,385 ล้านบาท ซึ่งของบไปแล้ว โครงการปัจจุบันเป็นระยะที่ 2 ในปี 2562-2564 ตั้งงบประมาณไว้เดิม 3,200 ล้านบาท แต่กลับมีการเบิกจ่ายไปทั้งสิ้น 3,700 ล้านบาท ต่อมาปี 65 ก็ขอมาเหมือนเดิมอีก 1,170 ล้านบาท ทำให้โครงการนี้จะมีการใช้เงินเกินไป 519 ล้านบาท
นายพิจารณ์ กล่าวว่า กรรมาธิการจึงเสนอให้ปรับลดงบประมาณที่เกินมาส่วนนี้ เพราะมีความกังวลว่าการตั้งงบประมาณเกินวงเงินที่โครงการใช้ จะเปิดช่องให้กองทัพเรือสามารถโยกงบประมาณส่วนนี้ไปจัดซื้ออาวุธอื่นๆ ดังที่เคยเกิดขึ้นแล้วในปี 2563 ที่กองทัพเรือใช้เงินเหลือจ่ายจากโครงการโอนไป ซื้อยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบก 3 ลำ วงเงิน 398 ล้านบาท โดยที่การจัดซื้อก้อนนี้ ไม่เคยถูกนำเข้ามาพิจารณาในสภาเลย”
“ถ้า กมธ. งบ 65 ผ่านงบก้อนนี้ไป เราก็กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิม ที่เป็นการตีเช็คเปล่าให้กองทัพ มีงบประมาณเหลือใช้ไปจัดซื้อยุทโธปกรณ์โดยไม่ผ่านการตรวจสอบจากสภาในยามที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังยากลำบากจากสถานการณ์วิกฤต” นายพิจารณ์ กล่าวทิ้งท้าย