ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ภาค 7 เพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาครใหม่ แทนนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ หรือ ปลัดแต และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายสุรวัช เรืองศรี อดีตผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร เขตกระทุ่มแบน อดีตเลขาฯ นายก อบจ.สมุทรสาคร ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุรวัช ตามมาตรา 65(1) ประกอบมาตรา 126 นั้น

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 25 พ.ค. ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว ภายหลังจากที่มีการสืบพยานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษาให้ยกคำร้อง นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร ส่วนนายสุรวัชร เรืองศรี อดีตผู้สมัคร ส.อบจ.สมุทรสาคร ก็ยกคำร้องด้วยเช่นเดียวกัน ส่งผลให้บุคคลทั้ง 2 สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่และใช้สิทธิทางด้านกฎหมายการเลือกตั้งได้ตามปกติ

นายอุดม เปิดใจภายหลังรับฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ต้องขอขอบคุณศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่มอบความยุติธรรมคืนให้กับตนเอง เพื่อที่ตนจะได้กลับมาทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเข้าไปทำงานตามปกติทันที ส่วนงานที่จะต้องเร่งเดินหน้าต่อนั้น ก็จะต้องขอไปตรวจสอบดูว่ามีงานอะไรที่ยังคงคั่งค้างอยู่บ้าง หรือในช่วงที่หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้นมีเรื่องใหม่อะไรเข้ามาบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือ บางเรื่องอาจจะต้องมีการหารือร่วมกับผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาพื้นที่รอยต่อระหว่างสมุทรสาคร กับ กรุงเทพฯ เช่น ปัญหาน้ำเสียคลองภาษีเจริญ หรือ สิ่งแวดล้อม รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ต้องร่วมกันทำ เป็นต้น ซึ่งก็จะต้องมีการหารือร่วมกันเพื่อให้การทำงานชายขอบหรือรอยต่อระหว่าง 2 จังหวัดสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

นายอุดม กล่าวอีกว่า ในโอกาสนี้ขอขอบคุณทุกกำลังใจจากพี่น้องประชาชนชาว จ.สมุทรสาคร และผู้ที่คอยห่วงใยให้กำลังใจพร้อมกับไถ่ถามกันเสมอมาตั้งแต่ กกต.ยื่นคำร้อง จนมาถึงวันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 อ่านคำพิพากษา ก็มีผู้ที่คอยส่งกำลังใจมาให้อย่างล้นหลาม ทั้งนี้เมื่อศาลฯ ได้ยกคำร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ตนก็จะกลับเข้ามาเดินหน้าทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนเหมือนเดิม ให้สมกับที่พี่น้องชาวสมุทรสาครได้มอบความไว้วางใจเลือกตนให้เข้ามาทำงานตรงนี้ ส่วนเรื่องของคดีความนั้น จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปหรือไม่ คงต้องให้ทางทีมกฎหมายปรึกษาหารือกันอีกครั้ง แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่ต้องการที่จะมุ่งไปตรงจุดนั้น เพราะตอนนี้ต้องการโฟกัสที่เรื่องงาน ซึ่งต้องกลับมาทำในหน้าที่ของนายก อบจ.สมุทรสาคร เพื่อพี่น้องประชาชนให้เต็มที่.