ยังคงเป็นกรณีที่ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนายโสธร และสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบ หลวงปู่แสง หรือ หลวงปู่แสง ญาณวโร พระเกจิชื่อดัง อายุ 98 พรรษา ที่กำลังป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ อาศัยอยู่ในที่พักสงฆ์ พื้นที่บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร โดยมีการกล่าวหาหลวงปู่แสงว่า มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต้องถูกจับสึก อ้างว่ามีคลิปช่วงเกิดเหตุเป็นหลักฐานเห็น หลวงปู่แสง พร้อมลูกศิษย์ชาย 3 คนนั่งประกบ เมื่อญาติโยมผู้หญิงเข้ามากราบไหว้ จะถูกเรียกเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะพยายามลวนลามผู้เสียหาย ทั้งลูบศีรษะ โอบกอด และพยายามดึงเข้าไปหอมแก้ม จนถูกสังคมโจมตี และล่าสุดหมอปลาได้ออกมายอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ได้มีการให้นักข่าวสาว เป็นสร้างหลักฐาน จนนำมาซึ่งบริษัทให้พ้นสภาพ ทำให้สังคมวิจารณ์เรื่องนี้หนักมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดในรายการโหนกระแส ได้เชิญ ลูกศิษย์ของหลวงปู่แสงมาร่วมพูดคุย โดยมีทั้ง ส.ส.สมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ‘วิทย์ มหาชน’ กรรมการสมาคมชาวยโสธร รวมถึง ทนายวรวุฒิ พรหมสุวรรณ มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องนี้

ทนายวรวุฒิ เผยว่า อยากสร้างบรรทัดฐานไว้ไม่ให้คนมาทำอีก นอกจากนี้หมอปลาที่แกทำเป็นประโยชน์ต่อสังคม เห็นดีเห็นงามด้วยแต่ต้องแยกให้ออกก่อนอันไหนถูกผิด ชั่วดี ไม่ใช่การกระทำทุกอย่างจะถูกเสียหมด พอมันผิดแล้วกฎหมายอาญาแผ่นดินเขียนไว้ มันก็ต้องหยิบยกขึ้นมาให้เป็นบรรทัดฐาน ไม่ใช่ปล่อยไป ซึ่งทุกฝ่ายลูกศิษย์เขารวบรวมกัน ตาแกมองไม่เห็น แกไม่รู้หรอกผู้หญิงผู้ชาย แกไม่รู้หรอก แกทำไปไม่รู้สึกตัว แกอาพาธ ไม่รู้ว่าสัญชาตญาณใดที่ไปจับ แต่มีเจตนาบริสุทธิ์แน่นอน สุดท้ายเรื่องอยู่ที่ตำรวจ แต่ผมแค่ชงเรื่องขึ้นไป อาจจะมีข้อไหนเพิ่มเติมก็ได้อยู่ที่พนักงานสอบสวนครับ”

ด้าน วิทย์ เผยว่า “วันนี้ผมอยากให้ทุกคนมีสติฟังก่อน คนที่มาออกโหนกระแสร้องเรื่องหลวงปู่ เขามีตัวตนจริงๆครับ ครอบครัวเป็นครูที่ จ.กาญจนบุรี ที่คนสงสัยใช่สีกาตองไหมอะไรต่างๆ ผมเข้าใจเจตนาสามคนพ่อแม่ลูก เราพร้อมส่งเสริมเขาให้ทำนุบำรุงศาสนาต่อ ถ้าวันหนึ่งพาน้องไปกราบหลวงปู่เพื่อให้รู้เขามีตัวตนจริงๆ อยากให้ศรัทธาพอกพูนมากขึ้น เป็นต้นแบบ เขาก็เจ็บพอโดนกระแสหลายๆอย่าง เรารู้เขามีศรัทธาจริงต่อหลวงปู่จริงๆ ผมให้เขาไปแจ้งความเพื่อทำทุกอย่างให้มันกระจ่าง ยืนยันว่ามีตัวตนจริงๆ ผมเข้าใจคนอยู่พื้นที่ พระที่อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ เจอกล้องยังรู้สึกสั่น พระโดนไมค์จ่อสิบๆตัว เจอกล้องกี่สถานีเข้าไปเลยตอนนี้ โดยอิทธิพลของสื่อที่ไปขณะนั้น ผมขาดความกล้าหาญ พอสำนักพุทธฯ ดูคลิปหมอปลาเอาให้ดูที่ปั๊มน้ำมัน เป็นใครไม่กลัวบ้าง ก็เลยตกกระไดพลอยโจน เลยให้เห็นใจคนบ้านผมด้วย ทั้งหมดทั้งปวงอยู่ที่สำนักพุทธฯ จะดำเนินการต่อไป”

ขณะที่ ส.ส.สมหญิง เผยว่า “เรื่องนี้เราไม่นิ่งนอนใจ เรื่องนี้ทำร้ายจิตใจคนทั่วไปทางศาสนา เราต้องมีการป้องปราม โดยผู้ใหญ่มาหารือกันในระบบราชการ สุดท้ายในมุมของคนอำนาจเจริญ ยังไม่ได้ดำเนินการ ถ้าปู่เอ่ยเราก็เชื่อฟังปู่ พอปู่อโหสิกรรมแล้วก็จบ คนที่ไม่ยอมก็มี ก็มีองค์กรเอกชน ภาคประชาชนเราก็ไม่ยอมเหมือนกันแต่ยังไม่ได้คุยกันเป็นเวลากระชั้นชิด ดิฉันเบาลงเพราะหลวงปู่อยู่อำนาจเจริญ เราภาคภูมิใจเขามาเป็นเจ้าอาวาสที่นี่ สร้างวัดใหญ่และมีชื่อเสียง จากนี้จะไปยื่นเรื่องต่อกรรมาธิการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เรื่องราวกระจ่างชัดขึ้น”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากรายการโหนกระแส