นายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เปิดเผยถึงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 12-23 พ.ค.นี้ ว่า ในเวียดนามตอนนี้ค่อนข้างคึกคึกมากับการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ยิ่งใกล้เปิดฉากการแข่งขัน คนเวียดนามยิ่งตื่นเต้น เหมือนกับเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกคนมุ่งไปที่ซีเกมส์ และต้องการต้อนรับคนจากเพื่อนร่วมอาเซียน ส่วนตัวมองว่าคนเวียดนามมีความตื่นตัวสูงมาก

สำหรับสถานทูตไทย ได้ร่วมมือร่วมใจกับทั้งภาคธุรกิจ หอหารค้าและอุตสาหกรรมไทย-เวียดนาม รวมทั้งภาคเอกชนที่กระจายตามจังหวัดต่างๆ ในการดูแลนักกีฬาไทยและเจ้าหน้าที่ รวม 12 จังหวัด โดยได้เตรียมเรื่องการเชียร์นักกีฬาไทย ให้รู้สึกอบอุ่น ซึ่งแบ่งเป็นส่วนก่อนการแข่งขันก็ได้เตรียม “กล่องกำลังใจ” มอบให้กับนักกีฬา เพื่อเป็นกำลังใจ ซึ่งภายในกล่องจะมีสิ่งของใช้ต่างๆ ที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค รวมทั้งการเตรียมข้าวกล่องอาหารไทยและเสบียงส่งไปให้นักกีฬาที่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีความท้าทายมาก เพราะอาหารที่ส่งไปจะต้องมีคุณภาพ สดและไม่บูดเสีย ระหว่างการแข่งขันก็จะไปเชียร์นักกีฬาแต่ละชนิดกีฬาด้วย

ส่วนกรณีที่นักกีฬาติดเชื้อโควิด-19 เราได้เตรียมการเอาไว้ 2 แผน คือ แผนแรก เป็นมาตรการของเวียดนาม นักกีฬาจะต้องตรวจ ATK ทุก 3 วัน และก่อนแข่งขัน 24 ชั่วโมง หากพบว่าติดเชื้อก็จะถูกห้ามแข่ง และให้แยกห้องกักตัวรักษาภายในโรงแรมที่พักและตรวจทุกวัน แผนสอง เป็นในส่วนจองสถานทูตไทย ก็มีสถานกงสุล ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลคนไทยอยู่แล้ว ทั้งเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยตกทุกข์ได้ยากจะคอยสนับสนุนเพิ่มเติมในกรณีที่มีนักกีฬาหรือเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ ทั้งเรื่องยารักษา แพทย์ที่พร้อมจะประสานติดต่อให้ในกรณีที่มีความจำเป็น ทั้งนี้อยากจะย้ำว่าแม้ชาวเวียดนาม จะเริ่มใช้ชีวิตกันปกติ ไม่ค่อยใส่หน้ากากอนามัยแล้ว แต่ส่วนตัวก็ยังกังวลและอยากให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่ ตลอดจนกองเชียร์ เคร่งครัดกับมาตรการป้องกันเพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อนั่นเอง