เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีกับผู้ที่ปล่อยข่าวปลอมในช่วงโควิด-19 ทำให้กระทบต่อการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ว่า ตอนนี้ไม่ต้องบอกว่าเป็นเฟคนิวส์ เพราะต่อให้เป็นข่าวจริงก็สามารถดำเนินการได้ทันทีถ้ากระทบต่อความมั่งคง ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อกำหนดจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น แทนที่รัฐบาลจะชี้แจงประชาชนทันที หากมีความโปร่งใสสามารถชี้แจงได้ ตนไม่คิดว่าประชาชนต้องไปสร้างข่าวอะไรขึ้นมา ในทางกลับกันหากรัฐบาลสามารถนำเสนอข่าวสารได้ครบถ้วนก็จะทำให้ประชาชนเข้าใจอย่างถูกต้อง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเช่น เรื่อง Apid Test Antigen หรือ Antigen Test Kits แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตัวเอง ที่บอกว่าตรวจแล้วไม่ถือเป็นการติดเชื้อเพราะไม่อยู่ในระบบ ปรากฏว่าเมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ต่อว่ารัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงไปมาหลายต่อหลายครั้ง ถามว่าเป็นความผิดของประชาชนหรือไม่ ที่ประชาชนรู้สึกไม่ไว้วางใจข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล ซึ่งประชาชนต้องแสวงหาข้อเท็จจริงและปะติดปะต่อเองทำให้มีข้อมูลที่ถูกบ้างผิดบ้าง แต่เจตนาไม่ใช่การสร้างข่าวปลอม

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือรัฐบาลให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หลายครั้งมีหน่วยงานหนึ่งพูดอีกอย่าง และอีกหน่วยงานหนึ่งพูดอีกอย่าง ถามว่ารัฐบาลเคยจัดการปลอมที่เกิดขึ้นกับฝั่งตัวเองหรือไม่ รัฐบาลไม่เป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดการข่าวปลอมฝั่งตัวเองด้วยซ้ำ แล้วมีหน้ามาจัดการกับประชาชนหรืออย่างไร ตนคิดว่าการอ้างหรือการจัดการข่าวปลอม คือ การใช้กฎหมายเพื่อบีบบังคับประชาชน และใช้เรื่องนี้ปกป้องรัฐบาลจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมากกว่า เรากลัวโควิด-19 มากพอแล้ว อย่าให้เราต้องกลัวการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ห่วยๆ ของรัฐบาล วันนี้สังคมไทยขับเคลื่อนได้การด่า และต้องยอมรับว่าหลายครั้งก็ได้ผล เพราะทำให้รัฐบาลเปลี่ยนท่าทีหลายอย่าง ซึ่งบางเรื่องก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ภาพรวมทั้งหมดยังคงแย่มากและล้มเหลว ทั้งนี้ ขอให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างถึงพริกถึงขิงแน่นอน

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการปภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในส่วนของพรรคก้าวไกล ว่า พรรคก้าวไกลพร้อมการปภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างลึกแน่นอน หากจำกันได้ในปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล สามารถตรวจสอบได้รัฐบาลได้ลึกมาก และหลายเรื่องรัฐบาลก็ตอบไม่ได้ ซึ่งรอบนี้ก็ไม่ต่างกัน ย้ำว่าการทำหน้าที่ของพรรคก้าวไกลยังเต็มที่อย่างแน่นอน เพราะเราเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจมานาน ตั้งแต่จบการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา เราได้เตรียมข้อมูลมาโดยตลอด  

“รายละเอียดจะเป็นบอย่างไรนั้น ต้องขอเก็บไว้ก่อน เชื่อว่าบางเรื่องประชาชนสามารถคาดการณ์ได้ว่าเป็นเรื่องไหน แต่หลายเรื่องที่จะมีการอภิปรายครั้งนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนไม่ทราบมาก่อน ส่วนจะมีการอภิปรายรัฐมนตรีกี่คนนั้น ตอนนี้พรรคยังไม่ได้เคาะอย่างสะเด็ดน้ำ แต่ยืนยันว่ามีหลายคนแน่นอน และขอให้เตรียมตัวเตรียมใจได้เลย” นายรังสิมันต์ กล่าว.