เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายไซราม ประกายกิจ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เบอร์ 7 เขตคลองเตย พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ตลาดโรงงานยาสูบ ชุมชนโรงหมู และชุมชนวัดสะพาน เขตคลองเตย เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่และประชาสัมพันธ์เชิญชวนไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.นี้

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตลอดการลงพื้นที่ที่ผ่านมาบรรยากาศคึกคักประชาชนให้การตอบรับดี พบความต้องการรวมถึงปัญหาของประชาชนที่สะท้อนระหว่างการลงพื้นที่ ที่สำคัญคือประชาชนเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้างของกทม.มากขึ้น อาทิ ปัญหาการจัดการขยะที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเทียบที่พักอาศัยกับห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อของทุนใหญ่ ว่าเป็นความไม่ธรรมที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และอีกปัญหาสำคัญ คือ ปัญหาการลอกท่อของ กทม.ที่ประชาชนไม่ได้รับอย่างทั่วถึง ส่งผลมาจากการเบิกจ่าย และงบประมาณของ กทม.

ปัญหาที่น่าตกใจของ กทม. คือปัญหาคนจนเมืองที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือ ในสภาพเมืองหลวงของประเทศไทยที่คุณภาพชีวิตของประชาชนในไม่ดี และเท่าเทียมกันทุกคน สิ่งสำคัญ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ จึงมีนโยบายเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุจาก 600 บาท เป็น 1,000 บาท เชื่อว่าถ้าเร่งแก้ไขปัญหา จะทำให้คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ประชาชนดีมากขึ้น และปัญหาคนจนเมืองจะค่อยๆหมดไป ในทางกลับกันหากไม่แก้ไขปัญหาตรงนี้จะพบความเหลื่อมล้ำมากขึ้น งบประมาณในการบริหาร กทม.เป็นสิ่งสำคัญ เราจะต้องการกระจายงบประมาณ กระจายอำนาจรัฐสู่ชุมชน

นายวิโรจน์ ยังกล่าวอีกว่าเมื่อลงดูในหลายพื้นที่ หลายแห่งพบพื้นที่รกร้าง สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่สาธารณะได้ ซึ่งต้องเป็นสวนสาธารณะเพื่อคนทุกคน ตนคำนึงถึงคนพิการที่ต้องสามารถใช้พื้นที่นี้ได้ด้วย เป็นแบบ Universal design เหมือนในสิงคโปร์ ที่คนทุกคนสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเสรีและอำนวยความสะดวกให้คนพิการ คนเปราะบาง ที่สำคัญคือไม่ได้ทำเพื่อคนพิการที่มีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น แต่ต้องทำเตรียมเพื่อสำหรับพ่อแม่ พี่น้อง หรือแม้แต่เราเอง ที่อาจจะกลายเป็นผู้พิการได้ในอนาคต

สิ่งที่น่าสนใจของ กทม. คือ ตลาดชุมชน ตลาดโบราณที่พบในหลายเขตของ กทม.ก่อนหน้านี้ได้ไปลงพื้นที่ตลาดหัวตะเข้ ในเขตลาดกระบัง พบว่าประชาชน พ่อค้าแม่ค้า ร้านค้า เศรษฐกิจซบเซา เพราะขาดการประชาสัมพันธ์จาก กทม. คิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องผลักดันเพื่อสร้างเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ แต่ กทม.ในปัจจุบัน เป็นเมืองที่ผลักภาระให้ประชาชน สะท้อนจากการกดขี่ของอำนาจรัฐ และการที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม

ทางด้านนายไซราม กล่าวว่า ตนขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่คลองเตย ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ ส.ก. ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. หากอยากได้ผู้ว่าฯ กทม. ที่พร้อมชุนทุกปัญหาเพื่อคน กทม. แก้ไขปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำ เลือกนายวิโรจน์ เบอร์ 1 รับใช้พี่น้องประชาชนคน กทม. พร้อมเลือกตน เบอร์ 7 เป็น ส.ก.ไปรับใช้พี่น้องประชาชนชาวคลองเตย และแก้ไขปัญหาที่ซุกใต้พรมคนกทม.