ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เมื่อวันอังคารที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา บียาร์รีล ทีมดังจากศึกลา ลีกา สเปน เปิดรังเอสตาดิโอ เดอ ลา เซรามิกา รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากเกมแรกเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วเป็น “หงส์แดง” ที่เปิดบ้านเอาชนะมาได้ก่อน 2-0
เริ่มเกมครึ่งแรก “เรือดำน้ำสีเหลือง” เจ้าถิ่น เร่งเกมบุกใส่ทีมเยือนทันที และได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 จากการแปจ่อ ๆ ของ บูลาย เดีย ถึงนาทีที่ 41 เจ้าถิ่นหนีเป็น 2-0 จากการโหม่งของ ฟรองซิส ค็อกเกอแล็ง ส่งผลให้สกอร์รวมขยับมาเท่ากันที่ 2-2 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลัง “หงส์แดง” แก้เกมมาเป็นอย่างดีเปิดเกมบุกใส่เจ้าถิ่นได้มากกว่า และมีโอกาสยิงประตูหลายครั้ง ขณะที่ “เรือดำน้ำสีเหลือง” ดูจะช็อตไปดื้อ ๆ ถึงนาทีที่ 62 ฟาบินโญ หลุดเข้าไปยิงลอดขา เคโรนิโม รูญี นายทวารเจ้าถิ่นตุงตาข่าย ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ไล่มาเป็น 1-2 และอีกแค่ 5 นาทีต่อมา หลุยส์ ดิอาซ โหม่งลอดขา รูญี เข้าไปให้ “หงส์แดง” ตีเสมอเป็น 2-2
ถึงนาทีที่ 74 ซาดิโอ มาเน หลุดเดี่ยวเข้าไปลากหลบ รูญี ก่อนหลบ ฮวน ฟอยธ์ และยิงเข้าสู่ก้นตาข่ายโล่ง ๆ ให้ “หงส์แดง” แซงนำ 3-2 หลังจากนั้น ถึงนาทีที่ 85 เจ้าถิ่นที่ดูเหมือนจะสมาธิหลุดกันหมดแล้วนั้น ต้องมาเหลือ 10 คนเมื่อ เอเตียน กาปู ตัดฟาวล์ เคอร์ติส โจนส์ โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกชนะ 3-2 ส่งผลให้พวกเขาผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 2 นัด 5-2
สำหรับรอบชิงชนะเลิศนั้น ลิเวอร์พูล จะเข้าไปยืนรอพบผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ รีล มาดริด โดยรอบชิงดำจะมีขึ้นที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ชานกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 28 พ.ค.นี้
เครดิตภาพ : REUTERS