ขณะนั่งพิมพ์ต้นฉบับ (9 มี.ค.) เหลือบไปเห็นข่าวชาวเกาหลีใต้ที่มีสิทธิออกเสียง 44.2 ล้านคน ทยอยไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่

รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ระบุให้ประธานาธิบดีอยู่ในวาระไม่เกิน 5 ปี ใครเป็นครบ 5 ปี ไม่สามารถลงสมัครได้อีก โดยผู้ชนะในการเลือกตั้ง จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ..นี้ เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจซบเซา และการแพร่ระบาดของโควิด-19

วกกลับมาที่ประเทศไทย รัฐธรรมนูญระบุให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งอย่างต่อเนื่องได้ไม่เกิน 8 ปี แต่กรณีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกฯมาตั้งแต่เดือน ส.ค.57 เป็นนายกฯ ต่อเนื่อง และจะครบ 8 ปี ในเดือน ส.ค. 65

แต่ พล..ประยุทธ์คงไม่ลงจากเก้าอี้ง่าย ๆ เนื่องจากเชื่อว่าประชาชนส่วนหนึ่งที่สะท้อนความเห็นผ่าน “หลับหูหลับตาโพล” ยังอยากให้เขาอยู่ต่อไป ดังนั้นเมื่อใกล้ถึงเดือนส..นี้ พล..ประยุทธ์จะต้องหันหลังพิงศาลรัฐธรรมนูญ

คือเป็นนายกฯ มาแล้ว 2 ช่วง รวม 8 ปี แต่ยังไม่หนำใจ! ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญช่วยวินิจฉัยว่าเริ่มนับตั้งแต่เมื่อไหร่? อันนี้คือแกล้งไม่รู้ หรือไม่รู้จริง ๆ ก็ไม่ทราบ! แต่คงอีหรอบเดียวกับกรณีการเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” ซึ่งขัดต่อคุณสมบัติการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ

คนกินเงินเดือนหลวงทุกเดือน แถมอยู่บ้านหลวง ใช้รถหลวง เบิกค่าน้ำมันหลวง แต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือเปล่า? ต้องสร้างความลำบากให้ศาลรัฐธรรมนูญช่วยวินิจฉัย ก็นึกภาพกันเอาเองว่าขนาดไหน?

พล.อ.ประยุทธ์วางเป้าหมายที่จะอยู่ไปให้ถึงอย่างน้อย ๆ ถึงการประชุมเอเปคในเดือน พ.ย.65 แต่ตอนนี้ไม่ทราบหรือไง? ว่าสังคมโลกเขาแบ่งฝ่ายกันชัดเจนอยู่แล้วว่าประเทศไหนอยู่ฝ่าย “นาโต” ประเทศไหนอยู่ฝั่ง “รัสเซีย”

ที่สำคัญโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังระบาดหนัก แล้วผู้นำอเมริกา-รัสเซีย-จีน จะมายืนให้ผู้นำไทยจับมือเหมือนการประชุมเอเปคครั้งที่ 11 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือน ต.ค. 46 หรือ?

พยัคฆ์น้อย” จึงกระตุ้นเตือนไปยังพล..ประยุทธ์ว่าประเทศไทยมีคนมีความรู้ มีความสามารถมากมาย ดังนั้นถ้าเห็นว่าไม่ไหวก็อย่า “ดันทุรัง” เนื่องจาก 7 ปีกว่า ๆ ภายใต้การบริหารประเทศของพล..ประยุทธ์ อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) โตเฉลี่ยแค่ปีละ 2% ซึ่งต่ำมาก! ไม่เพียงพอให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ เพราะจีดีพีโตต่ำสวนทางกับหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน ธุรกิจเอสเอ็มอีเจ๊งกันระนาว มีคนจนเฉียด 20 ล้านคน และคนจบการศึกษาใหม่ ๆ หางานทำยาก!

ปัจจุบันมีคนคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นไปถึง 2 ลิตร 100 บาท และเงินกองทุนน้ำมันกว่า 20,000 ล้านบาท ที่โยกเอาไปใส่เป็นรายได้รัฐในสมัยรัฐบาล คสช. จนถึงป่านนี้เอามาคืนหรือยัง? แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะดันทุรังอยู่ไปทำไม?

ตอนนี้รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยกำลังตีปี๊บ! โครงการแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือน ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด รวมทั้งการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนภายในปี 65

แต่ “พยัคฆ์น้อย” เชื่อว่าทำไม่ได้หรอก! เพราะเกินความสามารถของรัฐบาลนี้ เนื่องจากปัญหาความยากจนและหนี้นอกระบบมันเรื้อรังมานานตั้งแต่รัฐประหาร จึงแก้ไขไม่ได้ง่าย ๆ เหมือนการใช้ ม.44 สั่งปิดเหมืองทองคำอัครา

พอสั่งปิดเหมืองทองฯ แล้วยังคุยฟุ้งว่าถ้ามีปัญหาจะรับผิดชอบเอง! แต่กลับเบิกงบหลวงกว่า 111 ล้านบาท เป็นค่าสู้คดี จนถึงปัจจุบันเริ่มเห็นเค้าลางว่าแพ้คดีแหง ๆ เพราะ ม.44 ทำพิษ! เนื่องจากตัวเอง “ดันทุรัง” ไม่ฟังความให้รอบด้าน!!.

————————-
พยัคฆ์น้อย