ในทุกๆ วันที่บริเวณสี่แยกไฟแดงอินโดจีน เส้นทางหลวงหมายเลข 12 ถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก พื้นที่ ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยว ภูทับเบิก เขาค้อ และน้ำหนาว ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมา ถ้าเจอไฟเขียวก็ต้องเหลียวมอง แต่ถ้ารถติดไฟแดง ก็อดที่จะเปิดกระจกมองไม่ได้ เมื่อเห็นพรีเดเตอร์ 2-3 ตัว สีเขียว สีแดง สีชมพู มาเต้นโยกย้ายส่ายเอวตามจังหวะเพลง สร้างสีสันอย่างสนุกสนาน
ซึ่งพรีเดเตอร์เหล่านั้น ไม่ได้มาเต้นอย่างเดียว แต่เขาถือตะกร้าขายกล้วยทอดมาด้วย คนที่นั่งมองในรถก็อดยิ้มไม่ได้ ต่างโบกมือเรียกพากันอุดหนุนซื้อกล้วยทอดโมเลนติดไม้ติดมือไปรับประทานระหว่างเดินทางไม่เหงาปากเลยทีเดียว..
นายคเณค์ ณิชกุลกัลยาภา อายุ 40 ปี หัวหน้าพรีเดเตอร์ เผยความเป็นมาว่า พื้นเพตนเองเป็นคนเพชรบูรณ์ ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยอะไร พอเรียนจบ ม.6 ก็ไปเป็นพนักงานซูเปอร์มาร์เกต ด้วยความที่ชอบการเต้นและร้องเพลง ต่อมาจึงได้ไปสมัครเป็นแดนเซอร์ในคลับที่พัทยา ทำอยู่พักใหญ่ได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นเป็นนักร้อง พออายุ 24 ปี ได้รับคัดเลือกจากเอเยนซี่ให้ไปเป็นนักร้องประจำตามผับที่ประเทศสิงคโปร์
“การเป็นนักร้องต้องฝึกฝนอยู่เสมอ จะร้องเพลงไทยส่วนใหญ่ก็เป็นแนวพี่เบิร์ด ธงไชย และเพลงจีน ฝรั่ง ได้หมด ส่วนค่าตอบแทนได้เงินเดือน เดือนละ 6 หมื่นบาท มีที่พัก อาหาร มีรถรับส่งเวลาทำงาน เมื่อมีเวลาพัก ก็ได้กลับมาบ้านที่เพชรบูรณ์ เฉลี่ยอยู่เมืองไทย 6 เดือน อยู่สิงคโปร์ 6 เดือน ทำอยู่ที่นั่น 9 ปี พอมีเงินส่งให้ทางบ้านไม่เดือดร้อน และมีเงินเก็บอยู่บ้าง”
คเณค์ เล่าถึงจุดหักเหของชีวิตว่า พอช่วงโควิดระบาดทั่วโลก อาชีพคนกลางคืนในสถานบันเทิง ผับ บาร์ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะถูกสั่งปิดทันที ช่วง มี.ค.63 รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศล็อกดาวน์ปิดประเทศ คนต่างประเทศที่จะเดินทางกลับบ้านต้องไปลงทะเบียน กว่าจะได้กลับต้องรอคิวเกือบ 8 เดือน เหมือนติดคุก รายได้ก็ไม่มี โชคดีที่ยังมีบ้านให้พัก อาหารฟรี ไม่ลำบากมากนัก แต่เงินที่มีเก็บไว้ต้องดึงออกมาใช้จนร่อยหรอ
ตลอดเวลาที่ถูกกักตัว 8 เดือน ไม่ได้ทำงาน ตนคิดว่าชีวิตนี้จะไปต่ออย่างไร ในเมื่ออาชีพนักร้องนักเต้น พอเกิดปัญหาก็ได้รับผลกระทบหนัก และอายุเริ่มมากขึ้น ก็มีความคิดที่อยากจะเป็นนายตัวเองบ้าง กระทั่งได้กลับมาบ้านที่ จ.เพชรบูรณ์ ช่วงต้นเดือน ต.ค.63 มีเงินติดตัวอยู่ 9 พันบาท ก็คิดว่าจะขายของดีกว่า และได้เห็นสูตร “กล้วยทอดโมเลน” จากเชฟคนดังในยูทูบ จึงนำมาลองทำ ไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ มีกล้วยเป็นวัตถุดิบ กระทะก็มีอยู่แล้ว แค่ซื้อน้ำมันมาทอด ซึ่งกล้วยโมเลน เป็นการกินกล้วยแบบอินโดนีเซีย ถ้าเป็นที่ไทยก็เรียกกล้วยแขก
“หลังสรุปได้ว่า ตัวเองจะขายกล้วยทอดโมเลนแล้ว แต่จะขายธรรมดาก็คงไม่ต่างจากที่คนอื่นขายอยู่ทั่วไป จึงเกิดไอเดียขึ้นว่า ต้องทำอะไรที่แปลกใหม่ เลยหยิบชุดพรีเดเตอร์ที่มีมาลองสวมใส่เดินเร่ขายกล้วยทอดที่สี่แยกอินโดจีน วันแรกที่มาขายก็อายเหมือนกัน ความรู้สึกเราจากที่เคยเต้นอยู่บนเวที แต่ต้องลงมาอยู่ข้างทางบาทวิถีใจก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ เหมือนกัน แต่ก็บอกตัวเองไม่ต้องคิดมาก ลงมือทำแล้วก็ต้องสู้ ต้องก้าวไป วันแรกขายได้ 540 บาท ก็สู้ทำ พยายามทำให้ดีที่สุด เพราะคิดว่ารวมๆ แล้ว ได้เดือนละหมื่นห้า ครอบครัวก็รอดแล้ว”
ที่ผ่านมา หลายคนถ่ายรูปพรีเดเตอร์ขายกล้วยทอดไปลงโซเชียล และมีพี่นักข่าวมาทำข่าว ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ชีวิตดีขึ้น มีงานอีเวนต์ต่างๆ เข้ามา ตั้งแต่งานวัด ยันเปิดร้านใหม่ เซอร์ไพร้ส์แฮปปี้เบิร์ธเดย์ และก็มีพี่ตั๊ก บริบูรณ์ จันทร์เรือง ดาราพิธีกรคนดัง มาร่วมแต่งชุดพรีเดเตอร์เต้นอย่างสนุกสนานถ่ายทำรายการ Boriboon Family ด้วย ตนภูมิใจที่สุด เมื่อสิ่งที่ทุ่มเทลงมือทำลงไปสำเร็จผล และประชาชนชื่นชอบ ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาก
คเณค์ ทิ้งท้ายว่า “ขอขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุน หากมาเที่ยวผ่านสี่แยกอินโดจีน แวะทักทานอุดหนุนกันได้นะครับ และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังประสบปัญหาชีวิต ขอให้ลุกขึ้นสู้อย่ายอมแพ้ ตนเชื่อว่าวันหนึ่งไม่นานอะไรคงจะดีขึ้น”
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : กิตติ ตันติมาลา จ.เพชรบูรณ์
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Boriboon Family
