การเตรียมทีม ที่มีปัญหาระยะเวลาซ้อม ถูกทดแทนด้วยขุนพลชั้นนำ ที่มาแบบเต็มทัพ ตัวหลักๆ ขาดไปแค่ พรรษา เหมวิบูลย์ คนเดียวก็ว่าได้ หรือจะอีกรายคือ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ แนวรุกที่กำลังมาแรง

เส้นทางที่เหมือนเอื้ออำนวย เปิดนัดแรกเจองานเบาอย่างติมอร์เลสเต จากนั้นได้พักในแมตช์เดย์ที่ 2 ทันที

ทำให้ มาโน โพลกิง มีเวลาผสมผสานวัตถุดิบชั้นดีให้กลมกล่อม

ตั้งแต่นัด 2 ที่ถล่ม เมียนมา ช้างศึก ก็ปึ้กเรื่อยๆ

การบริหารจัดการทีมในการเล่นแบบทัวร์นาเมนท์ของ มาโน โพลกิง ถือว่ายอดเยี่ยม เลือกพักนักเตะชุดหลัก ในเวลาที่เหมาะสม และก็เห็นผลด้วย อย่างเช่นพักยกชุด เกมกับ สิงคโปร์ ในรอบแรก และไม่ใส่ชื่อ สุภโชค สารชาติ ในการเจอ เวียดนาม นัด 2

แต่การที่ มาโน จะโรเตชั่นได้แบบนี้ ก็ต้องย้อนไปข้างต้นคือ นักเตะทั้งทีม ยันตัวสำรองต้องมีคุณภาพเพียงพอ

ตรงนี้ต้องยกให้คอนเนคชั่นของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม รวมทั้ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมลูกหนัง ที่ไปช่วยเคาะประตูเกี้ยวพาราสี แม้คนจะไม่ค่อยพูดถึง นายกบอล เท่าไหร่ก็เถอะ

จุดที่ดูยอบแยบอยู่บ้างคือเกมรับ ถูกทดแทนด้วยพลังแนวรุก และกองกลางแน่นปึ้ก

ในกองหลังนั้น ไม่น่าเชื่อว่า กฤษดา กาแมน กองกลางชลบุรี เอฟซี กลายเป็นตัวหลักในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ๊ก เช่นเดียวกับการโชว์ผลงานเข้าตาของ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ดาวฟุตซอล

เกมรุกของไทย เฉียบขาดบาดใจ โดยเฉพาะในเกมชนะ เมียนมา 4-0, กับนัดแรกที่ ชนะอินโดนีเซีย 4-0 ซึ่ง สุภโชค สารชาติ, บดินทร์ ผาลา และ ฟิลิป โรลเลอร์ เลี้ยงลุยกันสนั่นหวั่นไหว

พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล คือคนที่ทำให้เกมแดนกลางของเราแน่นปึ้ก

“เจ้าเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับเอ็มวีพีสมัย 3 มันก็ต้องอย่างนั้นแหละ เจ้าเจ โดดเด่นเกินระดับอาเซียน นี่ถ้ามีวีเออาร์ขู่พวกจอมเตะหล่ะก็ จะยิ่งโชว์ยิ่งกว่านี้

แม้กลางปี ฟุตบอลทีมชาติไทย จะมีบาดแผลจากการตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก แต่การคว้าแชมป์อาเซียน ถือว่าเยียวยาหัวใจได้ดีทีเดียว แม้ใครจะบอกว่า ดีใจอะไรกับแค่แชมป์ภูมิภาค แต่แชมป์ก็คือแชมป์ ที่สำคัญสำหรับแฟนบอลคือได้เขี่ย เวียดนาม ตกรอบด้วย

นี่พอจะแสดงได้ว่า หากทีมชาติไทย มากันแบบเต็มทัพ ความแข็งแกร่งถือว่าไม่ธรรมดา คิดๆแล้วเสียดายที่ คัดบอลโลก ปัญหาเยอะไป(ไม่)หน่อย

ถึงเวลาแห่งความสำเร็จ เราดีใจกันให้เต็มที่ แต่เมื่อดื่มด่ำแล้วก็ต้องมองไปข้างหน้า

“กัปตันเจ” บอกว่า จะหยุดพัฒนาไม่ได้ จะต้องมองไปให้ไกลกว่านี้

แชมป์อาเซียน การปลุกกระแส ปลุกศรัทธาแฟนบอล จะต้องเป็นเชือกเด้งของทีมชาติไทย ที่ถอยกรูดมาหลายก้าว

เด้ง ดีด ส่งไปสู่จุดที่เราเคยอยู่เป็นอย่างน้อย

หมุดหมายเริ่มต้นที่คัดเลือกเอเชียนคัพ ในเดือน มิ.ย.

ไฟที่มอด กลับมาลุกโชนอีกครั้งแล้ว วางแผนดีๆ บริหารจัดการดีๆ

เพราะถ้าไปตกรอบคัดเลือกเอเชียนคัพ

แชมป์อาเซียน ก็คงเป็นแค่ความดีใจไว้ปลอบตัวเอง ยามมองกลับมาที่อดีตเท่านั้น.

*** วุฒินล ***