ถือป็นการสิ้นสุด “ยุคแมร์เคิล” ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ซึ่งอยู่ในตำแหน่งยาวนานต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2548 และประกาศวางมือทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด

DW News

ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญของเยอรมนีรอบนี้ เป็นผลจากการที่โชลซ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค และตัวแทนของพรรคพรรคสังคมประชาธิปไตย ( เอสพีดี ) ที่มีจุดยืนแนวกลาง-ซ้าย สามารถนำพรรคได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด จากการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา บรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคกรีน และพรรคประชาธิปไตยเสรี ( เอฟดีพี ) ในนาม “พันธมิตรไฟจราจร” ตามสีสัญลักษณ์ของทั้งสามพรรค คือสีแดงของพรรคเอสพีดี สีเหลืองของพรรคเอฟดีพี และสีเขียวสำหรับพรรคกรีน

DW News

แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรรคการเมืองทั้งสามพรรคได้รับโอกาสให้ทำหน้าที่รัฐบาล แต่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสามพรรค ซึ่งมีนโยบายพื้นฐานบางเรื่องเป็นไปคนละทิศทางกัน ต้องมารวมตัวเป็นรัฐบาลผสม และท่ามกลางความท้าทายหลายเรื่อง หลายฝ่ายจึงจับตาด้วยความกังวล ว่า “สัญญาณไฟจราจรสามสี” จะแตกกลางคันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากทั้งสามพรรคที่ตัดสินใจลงเรือลำเดียวกันแล้ว สามารถร่วมกันพายเรือไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง จะถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกเรื่องหนึ่ง ให้กับเรื่องราวทางการเมืองของเยอรมนีได้อย่างน่าสนใจ

โฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของเยอรมนี

โชลซ์ขึ้นสู่อำนาจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกที่ 4 ของโรคโควิด-19 ในเยอรมนี อัตราการติดเชื้อพุ่งแบบก้าวกระโดด ระบบสาธารณสุขของเยอรมนีตึงตัวอย่างหนัก ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนครบสองเข็มอยู่ที่ประมาณ 70% ซึ่งถือว่ารั้งท้าย เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกด้วยกัน

ด้วยเหตุนี้ ผู้นำเยอรมนีคนใหม่จึงส่งสัญญาณ “ใช้ไม้แข็ง” ด้วยการประกาศสนับสนุน มาตรการบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งแนวทางที่ผ่านความเห็นชอบแล้วจากสภา จะเริ่มจากบุคลากรสาธารณสุข และผู้ที่ปฏิบัติงานในสถานดูแลผู้สูงอายุก่อน แต่เรื่องนี้เป็นชนวนให้เกิดบรรยากาศตึงเครียดทางสังคมเช่นกัน เห็นได้จากการประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ และการเดินขบวนของประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่คัดค้านการกำหนดกฎเกณฑ์การฉีดวัคซีน

ขณะที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของเยอรมนีซึ่งถือเป็น “เสาหลัก” ของทวีปยุโรปในระยะนี้ ไม่ได้สดใสอย่างที่คิด ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กำลังซบเซา จากวิกฤติการขาดแคลนวัตถุดิบหลายอย่าง อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนหลักของรถยนต์ ที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของเยอรมนีด้วย

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีสูงถึง 6% เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา สูงสุดในรอบระยะเวลาประมาณ 3 ทศวรรษ ยิ่งทำให้เส้นทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเยอรมนีให้กลับไปอยู่ในระดับเดียวกัน หรือ “เทียบเท่า” กับยุคก่อนการอุบัติของโควิด-19 อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่คิด

การเข้ามาร่วมรัฐบาลของพรรคกรีนเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนเช่นกัน ว่ารัฐบาลของโชลซ์ต้องการผลักดันนโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดหรือพลังงานสีเขียว และการยุติการใช้พลังงานจากถ่านหิน ภายในปี 2573 แม้ช้ากว่าแผนการเดิมนานถึง 8 ปีก็ตาม

อาคารรัฐสภา ในกรุงเบอร์ลิน

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้สันทัดกรณีในเรื่องนี้ให้ความเห็นและตั้งคำถามไปในทางเดียวกัน ว่าเยอรมนีมีแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าพร้อมแล้วหรือยัง เมื่อมีการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินทุกแห่งที่เหลือ การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร แนวโน้มของความล่าช้าเช่นนี้อาจทำให้เกิด “ช่องว่าง” ซึ่งจะกลายเป็นการขาดแคลนพลังงานระยะสั้น และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเยอรมนี ที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกเป็นหลัก

ในส่วนของการดำเนินนโยบายต่างประเทศนั้น โชลซ์นำรัฐบาลเยอรมนีเข้ามาในช่วงที่สถานการณ์ด้านความมั่นคง ตามแนวพรมแดนทางตะวันออกของยูเครนกับฝั่งตะวันตกของรัสเซีย กำลังตึงเครียดถึงขีดสุด สหรัฐและพันธมิตรตะวันตกหลายประเทศพร้อมใจกันประโคมข่าว ว่ารัสเซีย “กำลังจะบุกยูเครน”

เรื่องนี้มีแนวโน้มเป็น “บททดสอบแรก” ที่ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อท่าทีของเยอรมนีบนเวทีระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังอาจมีผลต่อเสถียรภาพภายในรัฐบาลด้วย เนื่องจากพรรคเอสพีดีของโชลซ์ กับพรรคกรีน มีจุดยืนเรื่องรัสเซียแตกต่างกัน โดยผู้นำเยอรมนียังคงต้องการรักษาจุดยืน “แข็งแกร่งแต่ประนีประนอม” กับรัฐบาลมอสโก แต่พรรคกรีน “ต้องการแข็งกร้าวกว่านั้น” และเรื่องนี้น่าจะมีผลต่อโครงการท่อส่งก๊าซ “นอร์ด สตรีม ทู” ที่เยอรมนีกับรัสเซียลงทุนร่วมกันเป็นหลักด้วย

ความท้าทายเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่รัฐบาลเยอรมนีชุดปัจจุบันกำลังเผชิญ หนทางนับจากนี้แน่นอนว่าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบตลอด และทุกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศจับตาอย่างใกล้ชิด ว่าการผลัดใบทางการเมืองครั้งแรกของเยอรมนี ที่เกิดขึ้นท่ามกลางปัญหามากมายเช่นนี้ จะออกดอกออกผลได้อย่างน่าพอใจมากน้อยเพียงใด.

ภัทราพร ไพบูลย์ศิลป

เครดิตภาพ : AP, GETTY IMAGES