ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า มีความพยายามเหลือเกินที่จะหลบสปอย์ภาพยนตร์เรื่องนี้เยอะมาก ๆ แต่เชื่อเหอะว่า คุณแทบจะหนีมันไม่พ้น เพราะแค่พิมพ์ชื่อคำว่า “สไปเดอร์แมนโนเวย์โฮม นักแสดง” ในกูเกิล คุณก็พอจะเดาได้แล้วว่า เรื่องราวน่าจะเป็นอย่างไร “สไปเดอร์แมนโนเวย์โฮม” (Spider-Man: No Way Home) เป็นภาพยนตร์แอ๊คชั่น-แฟนตาซี-ไซไฟ ความยาว 152 นาที กำกับโดย “จอน วัตต์ส” ผู้กำกับที่เคยโชว์ผลงานจาก 2 ภาคก่อนนั่นก็คือ Spider-Man: Homecoming โกยรายได้ไป 880.2 ล้านดอลลาร์ (จากทุนสร้าง 175 ล้านดอลลาร์) และ Spider-Man: Far from Home กวาดรายได้ไปอีก 1,132 ล้านดอลลาร์ (จากทุนสร้าง 160 ล้านดอลลาร์) ทั้งสองเรื่องต่างก็ประสบความสำเร็จชนิดถล่มทลาย เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าจะแปลกใจเลยว่า ทำไมในภาค No Way Home แค่เปิดฉายไปในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงแค่ 4 วัน เฉพาะในสหรัฐ ก็สามารถโกยรายได้ไปมากกว่า 260 ล้านดอลลาร์แล้ว ทำเอาเหล่านักวิจารณ์ถึงกับช็อก! ก่อนจะคาดการณ์ไว้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำเงินไปทั่วโลกมากกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากว่า 2 ภาคแรก อย่างแน่นอน

เปิดตู้ส่องชุดปฏิบัติการ “สไปเดอร์แมน” ทั้ง 3 เวอร์ชั่น

เรื่องย่อ
สืบเนื่องมาจากหนังไอ้แมงมุมภาคก่อนหน้านี้ (Spider-Man: Far from Home) “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” หรือ ไอ้แมงมุม (รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์) โดนวายร้ายตัวพ่ออย่าง “มิสเทริโอ” หลอกชิงเอาเทคโนโลยีสุดล้ำที่ “โทนี สตาร์ก” หรือ “ไอรอนแมน” ฮีโร่ที่ลาจากโลกนี้ไปแล้ว ทิ้งไว้ให้ราวกับเป็นมรดกที่พ่อมอบให้แด่ลูกชาย โดยใช้เทคโนโลยีดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้หลอกลวงผู้คน สร้างตัวตนเป็นฮีโร่ปราบปรามเหล่าเอเลี่ยนต่างด้าวบุกโลก สุดท้ายก่อนที่ “มิสเทริโอ” จะตายเพราะน้ำมือตัวเอง เขาก็ได้ถ่ายคลิปแฉรูปร่างหน้าตาของ “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” ซึ่งอยู่ในชุด “ไอ้แมงมุม” เอาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อทำให้ชีวิตของไม่ปกติสุขอีกต่อไป นั่นจึงทำให้ “ปีเตอร์” ต้องไปขอความช่วยเหลือจาก “จอมเวทย์มหากาฬ” หรือ “ดอกเตอร์สเตรนจ์” (Doctor Strange) เพื่อใช้เวทย์โบราณทำให้ทุกคนไม่รู้ว่าเขาคือ “ไอ้แมงมุม” แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเวทมนตร์ที่ผิดพลาดไปดึงเอาจักรวาลคู่ขนาน (Multiverse) ซึ่งมีเหล่าร้ายที่ต้องการทำลายไอ้แมงมุมในมิติอื่น ๆ มุ่งหน้ามายังโลกที่พวกเขาอยู่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

จุดเด่นของ “สไปเดอร์แมนโนเวย์โฮม”
แค่ชมภาพยนตร์ตัวอย่างที่โชว์ CG การทำลายล้าง และฉากการต่อสู้ที่ดุเดือด ก็ไม่อยากจะพลาดแล้ว มาเจอตัวหนังเต็ม ๆ ที่ใส่ความเป็น “แฟนตาซี” ลงไปอีกงานนี้บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครที่ไปดูเรื่องนี้ในระบบ 4DX รับรองว่า เหนื่อยแน่นอน (โยกแล้วโยก) สำหรับ IMAX 3 D เป็นอะไรที่น่าดูมาก ๆ เพราะฉากแอ๊คชั่นต่อสู้สวย ๆ มีหลายมุมกล้องที่อาจต้องโยกหัวหลบ ซึ่งก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงอยู่แล้ว

สำหรับ “บทบาทของตัวละคร” ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของตัวเอก เหล่าวายร้ายต่าง ๆ ถูกเฉลี่ยบทจนเกิดความสมดุลมาก แล้วยังมีการขโมยซีนกันเองแบบไม่ไว้หน้า เรียกว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างของเรื่องนี้ ทั้งมุกตลกล้อเลียนกันเอง สร้างสีสันดึงอารมณ์สนุกได้ตลอดเวลา ผู้ชมไม่รู้สึกเบื่อหน่ายมีจะมีบทสนทนาอยู่มากก็ตาม และที่สุดของที่สุดคือ ซีนที่ต้องตัดอารมณ์ให้เกิดความสลด ดำดิ่งกับเหตุการณ์เลวร้าย “ทอม ฮอลแลนด์” เล่นได้ดีมาก สามารถทำให้ผู้ชมร้องไห้ตามได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่ช่วงท้ายเรื่องก็ยังทำให้ผู้ชมเกิดความประทับใจได้อีก

จุดอ่อนของ “สไปเดอร์แมนโนเวย์โฮม”
จะบอกว่าเป็นจุดอ่อนก็ไม่เชิง เพราะถ้าหากท่านผู้ชมที่ยังไม่เคยชมแฟรนไชส์ ภาพยนตร์ Spider-Man ปี 2002, Spider-Man 2 ปี 200,Spider-Man 3 ปี 2007,The Amazing Spider-Man ปี 2012 และ The Amazing Spider-Man 2 ปี 2014 อาจไม่ค่อยอินกับเรื่องราวในภาคนี้ ดังนั้น “ดูหนังกับหมี” ขอแนะนำให้ย้อนกลับไปดูที่ Netflix ซึ่งจัดฉายทุกภาคไว้อย่างครบครันกันก่อนนะครับผม

5/5 กะโหลก เป็นหนัง The Best สุดยอดในปี 2564 นี้แล้ว แอ๊คชั่นอลังการงานสร้าง บทก็ดี ตัวละครก็เด่น เด็กผู้ใหญ่ดูได้แน่นอน ยิ้มทั้งน้ำตา (หนังจบแล้วอย่าเพิ่งลุกเพราะมี End Credit 2 ฉาก)

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก Sony / Columbia Pictures / Marvel Studios / Walt Disney Studios Motion Pictures