หากท่านมีอาการจาก ต่อมลูกหมากโต ท่านอาจประสบปัญหาทางเพศได้ ในปัจจุบันมีการรักษาที่สามารถช่วยได้ มีงานวิจัยหลายการศึกษาได้แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างต่อมลูกหมากโต กับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ซับซ้อน พบว่าผู้ชายที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโต มักจะเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และผู้ชายที่เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมักพบโรคต่อมลูกหมากโตร่วมด้วย

ความเชื่อมโยงระหว่างต่อมลูกหมากโตและปัญหาทางเพศ ผู้ชายที่มีอาการต่อมลูกหมากโต ซึ่งเป็นต่อมที่ล้อมรอบท่อปัสสาวะ อาการโดยรวมมักรู้สึกอยากปัสสาวะตลอด มีปัญหาในการเริ่มปัสสาวะและหยุดปัสสาวะ, ปัสสาวะไม่พุ่ง, ปัสสาวะบ่อย, ปัสสาวะเล็ด และปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนซึ่งทำให้ตื่นจากนอนหลับไปแล้ว

นักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจว่าทำไมโรคต่อมลูกหมากโตสัมพันธ์กับโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อาจมีบางอย่างเกี่ยวกับพันธุกรรมหรืออายุ นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าการนอนไม่หลับหรือความวิตกกังวลที่อาจเกิดจากต่อมลูกหมากโตทำให้ปัญหาทางเพศแย่ลง นักวิจัยเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า ถ้าอาการต่อมลูกหมากโตมีความรุนแรงมาก โอกาสที่ท่านจะมีปัญหาทางเพศก็จะยิ่งมากขึ้น เช่น แรงขับทาง
เพศ, ปัญหาในการรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ และความพึงพอใจทางเพศน้อยลง

มีรายงานทั้งโรคต่อมลูกหมากโตและโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศพบบ่อยมากในผู้สูงอายุ ร้อยละ50 ของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายพบว่ามีอายุมากกว่า 60 ปี และร้อยละ 50 ของโรคต่อมลูกหมากโตในผู้ชายพบว่ามีอายุมากกว่า 60 ปี ร้อยละ 65.3 ของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายพบว่ามีปัญหาการปัสสาวะ และพบว่าร้อยละ 72.2 ในผู้ชายซึ่งมีปัญหาการปัสสาวะพบว่ามีโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ปัจจุบันมีนักวิจัยรายงานว่าความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาการปัสสาวะและโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มี 4 กลไกของพยาธิสภาพหลักของบริเวณอวัยะเพศ กระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ คือมีการลดลงของไนตริกออกไซด์ มีการลดลงของหน้าท่ีเส้นประสาทและเยื่อ
บุโพรง (Endothelium) ของหลอดเลือด มีการเปลี่ยนแปลงของการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบ มีเลือดแดงมาเลี้ยงน้อยลง ทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลายจากการขาดออกซิเจน นอกจากนี้พบว่าการรับประทานยากลุ่มยับยั้งเอนไซม์พีดีอี-5 สามารถช่วยรักษาทั้งปัญหาการปัสสาวะและโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้พร้อมกัน.

————————————
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล