ฟีฟ่าเดย์ ผ่านไปอีกครั้ง พร้อมความผิดหวัง และสมหวังของหลายทีม
ปีนี้จะไม่มีช่วงหยุดทีมชาติมาให้แฟนบอลรำคาญใจอีกแล้ว โดยจะกลับมาหวดกันอีกทีก็ช่วงเดือน มี.ค.ปีหน้า หลังจากนี้ จึงมาว่ากันที่บอลลีกกันแบบเต็มๆ
และถือเป็นช่วงชี้เป็นชี้ตายอย่างแท้จริง ใครจะอยู่ใครจะไป วัดกันยาวๆช่วงนี้แหละ
วันนี้ ไปดูกันว่า ทีมใหญ่แต่ละทีม มีการบ้านอะไรต้องทำ และกุนซือของพวกเขาต้องแก้ไขปัญหาอะไรในทีมกันบ้าง หลังกลับมาจากเกมทีมชาติรอบนี้
++++++++++++++++++
เชลซี – ทำให้ ลูกากู กลับมา
นั่งแท่นจ่าฝูงได้อย่างยาวนาน และมั่นคง ทุกอย่างดูเหมือนไม่มีปัญหาสำหรับ โธมัส ทูเคิล
หลังเข้ามาพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ยอดกุนซือเยอรมันยังนำทัพสิงห์สำอางทำผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่อง และเหมือนจะมีทีมที่ดีกว่าด้วยซ้ำ หลังพวกเขาทุ่มเงิน 98 ล้านปอนด์ กระชากตัว โรเมลู ลูกากู กลับมาร่วมทีม
แต่ ลูกากู นั่นแหละ ที่กำลังทำให้ ทูเคิล ปวดหัว
จากช่วงแรก ที่ฟอร์มเปรี้ยงปร้าง แต่เล่นไปเล่นมา กองหน้าทีมชาติเบลเยียมก็เริ่มหาย สถิติในการยิงประตูน้อยลงเรื่อยๆ ที่สำคัญ ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอีกด้วย
ลูกากู ไม่ได้ลงเล่นมาตั้งแต่เจ็บในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ มัลโม เมื่อ 21 ต.ค. ซึ่งเกมนั้น ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมนี ก็เจ็บเช่นกัน
สิ่งที่ ทูเคิล ต้องการที่สุดหลังเกมทีมชาติรอบนี้ก็คือ ลูกากู กลับมาฟิตเต็มที่ และกลับมาอยู่ในฟอร์มยิงระเบิดอีกครั้ง ถ้าทำได้ เชลซี มีสิทธิไปยาว แต่ถ้าทำไม่ได้ อะไรจะเกิดขึ้นก็ยังไม่รู้
++++++++++++++++++
แมนเชสเตอร์ ซิตี – ทำให้ กลีลิช คืนฟอร์มเทพ
แชมป์เก่า รั้งอยู่ที่ 2 ตามหลัง เชลซี แค่ 3 คะแนน แต่ฟอร์มฤดูกาลนี้ กระท่อนกระแท่นพอสมควร ไม่ถึงกับไร้เทียมทานเหมือนหลายปีที่ผ่านมา
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนักเตะใหม่เจ้าของค่าตัว 100 ล้านปอนด์ ที่ย้ายมาพร้อมความหวัง ชื่อ แจ็ค กลีลิช ยังไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมได้
ถามว่า กลีลิช แย่ขนาดนั้นเลยหรือ? ก็ต้องตอบว่าไม่ แต่ถ้าจะบอกว่าอดีตซูเปอร์สตาร์แอสตัน วิลลา ทำผลงานสมกับค่าตัวที่เป็นสถิติของนักเตะอังกฤษหรือยัง ก็ต้องตอบว่ายังเช่นกัน
นับตั้งแต่ย้ายมา เขาทำไปแค่ 1 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ จาก 9 เกมพรีเมียร์ลีกที่ลงเล่น ส่วนในแชมเปี้ยนส์ ลีก 4 เกม ทำได้ 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ทำให้มีหลายเกมที่ถูกดร็อปเป็นสำรองด้วยซ้ำ
แถม กลีลิช ยังกลับมาจากเกมทีมชาติรอบนี้พร้อมอาการบาดเจ็บด้วย ทำให้โจทย์ใหญ่ของ เปป กวาร์ดิโอลา ในช่วงนี้ ก็คือทำให้ กลีลิช คืนฟอร์มเทพให้ได้
ถ้าทำไม่ได้ มันก็เหมือน เปป ไม่ได้นักเตะใหม่เสริมทัพเลย และเสียเงินไปเปล่าๆ 100 ล้าน
+++++++++++++++++
ลิเวอร์พูล – ทำให้มิดฟิลด์หายเจ็บ
พบกับความพ่ายแพ้ก่อนพากันไปเตะทีมชาติอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ เจอร์เกน คลอปป์ ต้องการ แต่อย่างน้อย ลิเวอร์พูล ก็ได้หยุดสงบจิต สงบใจ และกลับมาตั้งหลักกันใหม่
ปัญหาในช่วงหลังของหงส์แดงคือนักเตะแดนกลางพาเหรดกันเจ็บ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คลอปป์ แทบไม่เคยได้ใช้แข้งตัวหลักหลายคนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ว่าจะเป็น ฟาบินโญ, ติอาโก, เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์, นาบี เกอิตา ขณะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ก็ยังเจ็บยาว
ล่าสุด เจอข่าวร้ายเข้าไปอีก เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน พกอาการเดี้ยงกลับมาจากทีมชาติอังกฤษ
นักเตะที่ว่ามา อาจมีบางคนกลับมาได้แล้ว แต่หลายคนก็ยังออดๆแอดๆ เจ็บๆหายๆอยู่เป็นประจำ ทำให้ คลอปป์ ไม่มีทีมที่ต่อเนื่อง เขาอาจจะเอาตัวรอดได้หลายครั้งในฤดูกาลนี้ จากฟอร์มอันสุดยอดของ โม ซาลาห์ แต่จะหวังให้เป็นแบบนั้นไปทั้งฤดูกาลคงไม่ได้
คลอปป์ จึงได้แต่ภาวนาให้ตัวหลักเหล่านี้หายเจ็บ และกลับมาฟิตเต็มที่อีกครั้ง เพราะไม่อย่างนั้น ในช่วงที่โปรแกรมแน่ติดต่อกันยาวๆ ลิเวอร์พูล อาจจะไปต่อไม่ไหว
++++++++++++++++++
อาร์เซนอล – ทำให้นักเตะไม่เจ็บ และอยู่ในฟอร์ม
เริ่มต้นฤดูกาลอย่างย่ำแย่ แต่กลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม และกำลังอยู่บนเส้นทางที่รุ่งโรจน์
ครั้งหนึ่ง มิเกล อาร์เตตา เคยเป็นตัวเต็งที่จะโดนไล่ออกเคียงคู่กับ สตีฟ บรูซ, โอเล กุนนาร์ โซลชา, ดาเนียล ฟาร์เค หรือ นูโน เอสปิริโต ซานโต แต่ตอนนี้ เก้าอี้ที่เอมิเรตส์ของเขาแข็งแรงมั่นคงที่สุดตัวหนึ่งในพรีเมียร์ลีกก็ว่าได้
เหตุผลหลักที่ทำให้ อาร์เซนอล และ อาร์เตตา กลับมาได้ก็คือ ได้นักเตะที่เจ็บกลับมาแบบฟูลทีม และมอบความเชื่อมั่นแบบสุดหัวใจให้บรรดาดาวรุ่ง
ทำให้เราได้เห็นปรากฏการณ์ของ เอมิล สมิธ-โรว์ ที่ขึ้นมาแจ้งเกิดถึงขั้นติดทีมชาติอังกฤษ หลังจากที่ฤดูกาลก่อน ได้ฮือฮากับ บูกาโย ซากา มาแล้ว
การบ้านของกุนซือหนุ่มสแปนิชตอนนี้จึงไม่มีอะไรมาก แค่หวังให้พวกตัวหลักอย่าเจ็บไปอีก และทำให้พวกดาวรุ่งที่กำลังอยู่ในฟอร์มเจ๋ง ทำผลงานได้ดีต่อไป
ที่สำคัญอย่าลืมบริหารทีม ผ่อนหนักผ่อนเบาให้พอดี อย่าหักโหมใช้งานดาวรุ่งหนักเกินไป เพราะถ้าหากพาเหรดเจ็บกันขึ้นมา อาจจะงานเข้าอีกได้
++++++++++++++++++
ทอตแนม ฮอตสเปอร์ – ทำให้ แฮร์รี เคน คืนฟอร์ม
อันโตนิโอ คอนเต เข้ามาพร้อมความหวัง แม้ประเดิมในลีกนัดแรกไม่ชนะ แต่ฟอร์มการเล่น รวมถึงสภาพจิตใจนักเตะดีขึ้นอย่างชัดเจน
หยุดทีมชาติจึงเป็นช่วงที่ กุนซืออิตาเลียนได้มีเวลาทำงานเต็มที่ และคงได้เห็นอะไรดีๆจากเขาแน่นอน หลังพรีเมียร์ลีกกลับมาหวดกันสุดสัปดาห์นี้
แต่ถ้าต้องการประสบความสำเร็จกับ สเปอร์ อย่างแรกที่ คอนเต ต้องทำก็คือทำให้ แฮร์รี เคน กลับมาเป็นคนเดิมให้ได้ และให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะในเกมลีก
ความจริงแล้ว ฟอร์มการถล่มประตูของ เคน ไม่ได้น้อยลงเท่าไหร่ เขายังยิงต่อเนื่องทั้งในเกมบอลถ้วย และทีมชาติอังกฤษ แต่ก็แปลกที่ในลีก เขาเพิ่งทำไปแค่ 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ใน 10 เกม
เจ้าตัวยอมรับว่าความผิดหวังในรอบชิงชนะเลิศยูโร 2020 และข่าวลือเรื่องย้ายทีมตอนซัมเมอร์ ส่งผลต่อตัวเองพอสมควร แต่พอได้ คอนเต เข้ามา ทำให้ เคน เห็นถึงความมุ่งมั่น อยากประสบความสำเร็จของสโมสร และตั้งหน้าตั้งตาจะได้ร่วมงายกับยอดกุนซืออิตาเลียนรายนี้อย่างเต็มที่
มาดูกันว่า คอนเต จะปลุกให้ เคน กลับมายิงระเบิดอีกครั้งได้หรือไม่
+++++++++++++++++
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ทำให้ โซลชา ลาออก ?
สิ่งที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา ต้องทำหลังกลับมาจากทีมชาติรอบนี้ มีหลายอย่างมากมายกว่าทีมอื่นๆที่กล่าวมา เพราะหยิบจับตรงไหนของแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ล้วนดูมีปัญหาไปหมด
แต่อย่างแรกที่เขาต้องแก้ก็คือตัวเขาเองนั่นแหละ ที่หลังจากได้กลับไปบ้านเกิด เพื่อพักผ่อน และสงบจิตสงบใจแล้ว หวังว่ากลับมาครั้งนี้ จะตั้งสติได้ และรู้ว่าต้องทำยังไงให้ทีมกลับมา
แมนฯ ยูไนเต็ด แทบไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะ โซลชา มีตัวเลือกให้ใช้งานมากมาย แถมแต่ละคนก็เป็นตัวระดับท็อป ที่ฤดูกาลนี้ไม่ค่อยเจ็บกันด้วย
การบ้านของเขาจึงก็คือแค่ทำยังไงให้นักเตะเหล่านี้มีความสุข และกลับมาโชว์ฟอร์มระเบิดช่วยทีมให้ได้เท่านั้น ซึ่งฟังดูอาจจะเหมือนง่าย แต่การจะทำนั้นยากแสนยาก และถ้าทำได้ โซลชา คงทำไปนานแล้ว
ดังนั้น สุดท้ายแล้ว มันจึงอยู่ที่ตัวเขาเองว่าจะพาทีมกลับมาเล่นดี และได้ผลการแข่งขันที่ต้องการได้ยังไง เพราะคราวนี้ ถ้าหากยังทำไม่ได้อีก เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำอีกต่อไปแล้ว?
