ชาวบ้านบนเกาะฮิลตันเฮด รัฐเซาท์แคโรไลนาและในบริเวณใกล้เคียงล้วนคุ้นเคยดีกับตำนานพื้นบ้านของ The Blue Lady of Palmetto Dunes หรือผีสาวในชุดสีฟ้าแห่งชายหาดพาลเมตโตดูนส์ เกาะฮิลตัน เฮด ที่อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ไม่มากนัก 

เล่าลือกันว่าผีสาวตนนี้มักปรากฏตัวอยู่ในบริเวณที่ตั้งประภาคารประจำเกาะ เพราะประวัติของเธอเมื่อครั้งยังมีชีวิตเกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนั้น

ตามตำนานเล่าว่า ในช่วงปลายทศวรรษของปีค.ศ. 1800 มีผู้ดูแลประภาคารคนหนึ่งชื่อว่า อดัม ฟริปป์ อาศัยอยู่ที่กระท่อมเล็กใกล้ประภาคารกับลูกสาวคนหนึ่ง เขาเป็นคนขยันขันแข็งและไม่เคยบกพร่องในการจุดไฟให้สัญญาณนักเดินเรือแม้ในระหว่างเกิดพายุเฮอร์ริเคนพัดเข้าสู่ชายฝั่งและเกาะฮิลตันเฮดในปีค.ศ. 1898 ซึ่งในช่วงนี้เองที่ฟริปป์เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย แต่บางตำนานก็ว่าเขาพลัดตกจากบันได

แคโรไลน์ที่เอะใจว่าพ่อของเธอหายตัวไปนานมาก แต่กว่าเธอจะเจอตัวเขา ฟริปป์ก็ใกล้ตายเต็มที ถึงอย่างนั้นก็คาม ก่อนที่เขาจะตาย เขาได้ทิ้งคำสั่งเสียสุดท้ายเอาไว้กับลูกสาว

ชาร์ลส์ พีโจ ผู้อำนวยการอาหารและเครื่องดื่มและหัวหน้าเชฟของรีสอร์ตในท้องที่ที่ชื่อว่าพาลเมตโต ดูนส์ เล่าว่า “มีข่าวลือว่าในช่วงก่อนจะหมดลมหายใจ เขาบอกลูกสาวว่า ให้ประจำอยู่ที่ประภาคารและคอยดูแลให้มันทำหน้าที่ให้ดี” 

กระท่อมเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับจุดไฟในประภาคาร
ป้ายหน้ากระท่อมน้ำมันเล่าประวัติของแคโรไลน์และพ่อของเธอ

ตลอดคืนนั้น แคโรไลน์ซึ่งอยู่ในชุดสีฟ้า วิ่งรอกระหว่างกระท่อมเก็บน้ำมันและประภาคารเพื่อทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เธอลุยน้ำท่วมเกือบถึงเอวเพื่อขนน้ำมันขึ้นบันไดมากกว่า 100 ขั้น ของประภาคารเพื่อคอยจุดโคมไฟด้านบนสุดให้แสงสว่างแก่เรือที่จะเข้าฝั่ง แต่การทำงานตลอด 24 ชั่วโมงก็หนักเกินไปจนเลยขีดจำกัดของเธอ แคโรไลน์เสียชีวิตในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเนื่องจากความอ่อนล้าและเศร้าโศกที่พ่อของเธอด่วนจากไป

กระนั้น ก็มีบางตำนานเล่าว่าเธอยังคงทำงานแทนพ่อต่อไปอีกหลายปี แต่มักจะสวมชุดสีฟ้าเพื่อระลึกถึงวันที่พ่อของเธอเสียชีวิต และถูกฝังในชุดสีฟ้าประจำตัวของเธอ

แม้ร่างกายจะจากไปแล้ว แคโรไลน์ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำตามคำขอร้องครั้งสุดท้ายของผู้เป็นพ่อ จึงมีรายงานการพบเห็นวิญญาณของเธอปรากฏตัวที่ประภาคารแห่งนั้น โดยมักจะมีคนเห็นเธออยู่ที่ชั้นบนสุดของประภาคารหรือไม่ก็เดินไปเดินมาอยู่ด้านนอกประภาคารในชุดสีฟ้า จนกลายเป็นผีสาวผู้โด่งดังประจำเกาะ

พีโจแสดงความเห็นว่า เวลาที่มีพายุแถวนั้นคงจะไปกระตุ้นความทรงจำที่เลวร้ายของแคโรไลน์ ทำให้เธออดไม่ได้ ต้องปรากฏตัวออกมาในตอนที่ท้องฟ้ามืดมิดและเต็มไปด้วยลมพายุ

พีโจยังเผยว่า พนักงานที่รีสอร์ตของเขาก็เคยพบเหตุการณ์ประหลาด ๆ ชวนขนลุกภายในห้องครัว เช่น ไฟบางดวงจะติด ๆ ดับ ๆ ในช่วงเช้ามืดหรือตอนดึก ๆ หรือจู่ ๆ เครื่องล้างจานก็ทำงานขึ้นมาเอง

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องแปลก ๆ ที่เชื่อว่าเป็นการหลอกหลอนจากผีสาวชุดสีฟ้าอีกหลายเรื่อง เช่น ขวดเหล้าที่สั่นไหวไปมาเหมือนโดนเขย่าอย่างแรง รวมถึงร้านอาหารท้องถิ่นหลายแห่งก็เจอโทรศัพท์ลึกลับซึ่งหาที่มาที่ไปไม่ได้

ขณะที่ตำนานผีสาวชุดสีฟ้ายังคงหลอกหลอนผู้คน แต่ชาวท้องถิ่นก็นำเรื่องราวของเธอไปต่อยอดเป็นจุดท่องเที่ยว รวมถึงกลายเป็นยี่ห้อเบียร์ท้องถิ่น นอกจากนี้ ประภาคารที่เธอเคยทำงานกับพ่อก็ได้รับการลงทะเบียนให้เป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ของชาติตั้งแต่ปีค.ศ. 1985 

ที่มา : nypost.com, hiltonheadlighthouse.com

เครดิตภาพ : YouTube / Earth and Time