“คนสนิท คนที่ห่วงใย อยากให้ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล”

เป็นประโยคที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ยอมรับด้วยตัวเอง หลังผ่านการทำงานสมาคมลูกหนังราวครึ่งปี และบอกว่าเจอปัญหามากมาย โดยเฉพาะการเงิน

แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจฮึดลุยต่อ

กระนั้นก็ตาม ก็ยังน่าห่วงว่า ถ้าภาระมันหนักจนหลังแอ่น เธออาจจะไขก๊อกเมื่อไหร่ก็ได้

โดนสถานการณ์ทุบหนักๆ ทุกวัน อะไรมันก็ไม่แน่

ถูกต้องแล้วว่า วงการฟุตบอลไทย ไม่ได้อยู่กับใครเพียงคนเดียว แต่ในช่วง “หน้าสิ่วหน้าขวาน” อะไรๆ ก็ยังไม่นิ่ง ถ้า “มาดามแป้ง” ถอนตัวไป ก็นึกสภาพไม่ออกจริงๆ ว่าวงการบอลไทยจะไปทางไหน ใครจะประคับประคอง

อย่างไรก็ตาม ผลงานของสมาคมลูกหนังไทย ที่คว้ารางวัลสมาคมฟุตบอลยอดเยี่ยมเอเชีย จากการประกาศของ เอเอฟซี

และจากบทสัมภาษณ์ของ มาดามแป้ง ก็ทำให้พอจะมั่นใจได้อีกขั้นว่า เธอจะไม่ทิ้งวงการไปดื้อๆ

“แป้งเชื่อว่ารางวัลนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นกำลังใจให้แป้ง ในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะพยายามขับเคลื่อนทิศทางของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไม่ว่าจะเป็นระดับทีมชาติ หรือ สโมสร รวมถึง เยาวชน ให้พัฒนาไปให้ได้มากที่สุด”

“อย่าลืม ยังมีฟุตบอลหญิง รวมถึง ทีมชาติไทยชุดเยาวชน U20 และ U17 ที่ยังอยู่ในเส้นทางที่จะไปฟุตบอลเยาวชนโลก”

สำหรับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย รับรางวัล สมาคมฟุตบอลยอดเยี่ยม ของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี “AFC Member Association of the Year” ระดับไดมอนด์ เอาชนะ สมาคมฟุตบอลจีน และ สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม

คำถามคือ “ระดับไดมอนด์” คืออะไร ก็เป็นระดับที่จัดไว้ในการมอบรางวัลให้สมาคมบอลในเอเชีย โดยมี 4 ระดับ ไดมอนด์ คือระดับที่ 2

สรุปรางวัลคือ ระดับแพลตินัม – สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น, ระดับไดมอนด์ – สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย, ระดับโกลด์ สมาคมฟุตบอลเนปาล, ระดับรูบี สหพันธ์ฟุตบอลลาว

แต้มใหญ่จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เอเอฟซี ที่เทให้ไทยได้รางวัล มาจากผลงานความสำเร็จในการดำเนินการจัดงาน ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 รวมถึง เอเอฟซี คองเกรส ครั้งที่ 34 เมื่อช่วงเดือนพ.ค. ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ภายใต้การประสานของ “มาดามแป้ง” ทำให้การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

“ดีใจมากที่วันนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้รับรางวัล” มาดามแป้ง กล่าว

“เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ซึ่งเราไม่เคยได้รับรางวัลอะไรในระดับเอเชียเลย ก็ดีใจมาก ต้องขอขอบคุณ ผู้บริหาร สภากรรมการทุกท่าน รวมทั้งนักฟุตบอลทีมชาติไทย, สตาฟฟ์โค้ช และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ที่มีคุณูปการต่อวงการฟุตบอลไทย และสปอนเซอร์ ที่เมตตาต่อฟุตบอลไทย และสำคัญที่สุด ต้องขอบคุณผู้เล่นคนที่ 12 คือแฟนบอลชาวไทย ที่ช่วยซัพพอร์ต สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มาโดยตลอด”

“เชื่อเสมอว่าฟุตบอล เป็นกีฬาที่ช่วยรวบรวมความสามัคคี ไม่ใช่แค่คนในชาติ เรามีการแข่งขันระหว่างประเทศ ใน 90 นาทีเราแข่งกันอย่างสุดหัวใจ แต่ว่ามีมิตรภาพ และสัมพันธภาพ ต่างๆ ทั้งพี่ น้อง เพื่อน รวมถึงนักฟุตบอล สามารถนำไปสู่การพัฒนา ความก้าวหน้า ในมิติอื่นๆ”

เธอยังมีโอกาสได้พูดคุยกับประธานฟีฟ่า และประธานเอเอฟซี ถึงหัวข้อการพัฒนาวงการบอล

“ประธานเอเอฟซี และ ประธานฟีฟ่า เขาให้ความสำคัญ กับการพัฒนาฟุตบอลเด็ก ในระดับรากหญ้าเป็นอย่างมาก”

“สอดคล้องกับความคิดของแป้ง แป้งเชื่อเสมอว่าเด็กและมนุษย์ คือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของทุกประเทศ ในการจะขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ” มาดามแป้ง กล่าว

เป็นอีกรางวัลความสำเร็จของ สมาคมลูกหนังไทย และวงการฟุตบอลไทย

เหมือนเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจคนทำงาน ให้ฮึดสู้ต่อกับการพัฒนายกระดับลูกหนังไทย ที่ยังมีโจทย์หิน โจทย์ใหญ่ รออีกมากมายในอนาคต.

*** วุฒินล ***