ว่ากันด้วยเรื่องของวงการวอลเลย์บอล ที่ล่าสุด ประเทศไทย เพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย (AVC) ระหว่างวันที่ 29-30 ส.ค.67 ที่ผ่านมา
ซึ่งวาระสำคัญคือการเลือกตั้งประธานสหพันธ์ AVC ปรากฏว่า รามอน ซูซารา นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งชาติฟิลิปปินส์ ได้รับเสียงโหวะแบบท่วมท้นชนะการเลือกตั้ง พร้อมกับก้าวขึ้นเป็นเป็นประธาน AVC คนใหม่ แทน ริตา ซูโบโว ประธาน AVC คนเก่าชาวอินโดนีเซีย
ส่วนอีกเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับวงการลูกยางของไทยก็คือได้มีการลงนามระหว่าง ดร.อารี กราซา ประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) กับ สมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย
เพื่อเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า FIVB ได้มีมติให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข่าวนี้สร้างความปีติยินดีให้กับแฟนคลับชาวไทยเป็นอย่างมาก สื่อสายกีฬาทั้งโซเชียลและเพจวอลเลย์บอล ต่างประโคมข่าวกันอย่างคึกคักว่าเราได้เป็นเจ้าภาพศึกลูกยางโลก 2025 ซึ่งเป็นรายการใหญ่ของโลกที่ทุกคนคาดหวังและเฝ้าจับตากันมาอย่างยาวนาน
ที่ผ่านมาเราเคยเป็นเจ้าภาพจัดวอลเลย์บอลรายการใหญ่มาแล้วมากมาย ทั้งศึกชิงแชมป์เอเชีย รวมถึงเนชันส์ลีก ทั้งรอบแบ่งกลุ่มและรอบสุดท้าย แต่กับศึกชิงแชมป์โลกนั้น มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก
อย่างที่ทราบกันว่า วอลเลย์บอลไทย เป็น “ลูกรัก” ของ FIVB เพราะผลงานการเป็นเจ้าภาพเนชันส์ลีก พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทย คือ “เมืองหลวง” ของวงการวอลเลย์บอลโลก อย่างแท้จริง
แต่กระนั้น เส้นทางก็ไม่ได้ราบรื่นโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะการเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่เบอร์ 1 เช่นนี้ จะต้องใช้งบประมาณมหาศาล เอาเฉพาะแค่เงินค่าประลูกก็ต้องใช้ไปเท่าไหร่แล้ว ยังไม่รวมถึงเงินค่าบริหารจัดการอีกจำนวนมากที่จะตามมา
ลำพังสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ คงไม่สามารถดำเนินการได้แน่นอน ดังนั้นเรื่องใหญ่ระดับชาติเช่นนี้ก็ต้องมีภาครัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเต็มๆ โดยเฉพาะการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมถึงภาคเอกชน
ประการสุดท้าย คือ การได้รับไฟเขียวจากรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ประเทศไทย “นายกอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร กำลังอยู่ระหว่างการฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรีอยู่
ซึ่งก็คงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักกว่าจะได้ “ครม.ชุดใหม่” รวมถึง “รมต.ท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่” ด้วย
รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญกับเรื่องของกีฬา เป็นอย่างมาก ฉะนั้นนี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้จัดกีฬาใหญ่ของโลก และได้โอกาสทอง ที่จะเรียกคะแนนและศรัทธากลับคืนมาอีกครั้ง
หลังจากที่เราเคยเสียหน้า จากการถูก “โอซีเอ” สั่งยกเลิกการเป็นเจ้าภาพศึกเอเชียนอินดอร์เกมส์และมาเชียลอาร์ทเกมส์ 2024 ไปแล้วนั่นเอง!
