กลายเป็นว่า 18 มิ.ย. 67 เป็นการ “รวมห่อ” 4 คดีการเมือง นับตั้งแต่คดี 40 สว. ยื่นถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, คดีการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่, คดียุบ-ไม่ยุบพรรคก้าวไกล จากปมหาเสียงแก้กฎหมายมาตรา 112, คดีอัยการนัดส่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณี 112

4 คดีทางการเมือง จะนำไปสู่ 4 ล้ม (ล้มเศรษฐาสว.-ก้าวไกลทักษิณ) พาประเทศไปสู่จุดอับหรือไม่? 18 มิ.. 67 ได้รู้กัน!

สัปดาห์ก่อนนายทักษิณไปงานบวชนาคใน จ.ปทุมธานี พร้อมตอบคำถามสื่อมวลชนว่า 18 มิ.ย. จะเดินทางไปศาลแน่นอน เพราะไม่เห็นมีอะไรเลย คดีนี้จะเป็นตัวอย่างให้คนเห็นว่าตอนรัฐประหารยัดข้อหากันอย่างไร

“คดีนี้ไม่มีมูลเลยแม้แต่นิดเดียว และพยายามนำไปตีความเพื่อให้มีมูล เมื่อคนหนึ่งสั่งฟ้อง คนอื่นก็ไม่กล้าสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งไม่ใช่หลักกฎหมาย จริง ๆ แล้วไม่มีอะไร คดีแทบจะไม่มีมูล แบบนี้เขาเรียกว่าเป็นผลไม้ของต้นไม้ที่เป็นพิษ คือการทำคดีแต่ละข้อกล่าวหาตั้งแต่ต้นที่มีการข่มขู่ ในชั้นพนักงานสอบสวนโดยผู้บังคับบัญชา”

อดีตนายกฯ พูดถึงเรื่องผลไม้ของต้นไม้ที่เป็นพิษ หมายถึงคณะบุคคลที่มาจากคณะรัฐประหาร! พูดถึงพนักงานสอบสวนที่ถูกข่มขู่ โดยพนักงานสอบสวนที่อดีตนายกฯกล่าวถึง คือตำรวจระดับ “พ...” ไม่ได้หมายถึง “อัยการ” ตามที่มีใครบางคนรีบออกมา “โชว์ออฟ” ว่าไม่เคยมีใครมาข่มขู่เขา!

“พ.ต.อ.” นายนี้ถูกผู้บังคับบัญชาบังคับข่มขู่ให้ไปแจ้งความเรื่อง 112 โดยที่เขาไม่เต็มใจนัก เพราะรู้ดีว่าในวันข้างหน้าจะเดือดร้อน และผู้บังคับบัญชาที่เกษียณราชการไปแล้วก็ช่วยเหลืออะไรเขาไม่ได้!

อดีตนายกฯพูดถึงผลไม้ของต้นไม้ที่เป็นพิษ หมายถึงองค์กรอิสระ และตัวบุคคลในองค์กรอิสระที่ถูกแต่งตั้งกันหลังรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช.-กกต.-สว. หรือแม้แต่ในสำนักงานอัยการสูงสุด ก็มีด้วยเหมือนกัน

หลังรัฐประหาร 22 ..57 เพียงไม่กี่วัน! ก็มีคำสั่งจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (หัวหน้าคสช.) เด้ง! นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการรัฐประหารในประเทศไทย ที่มีการเด้งอัยการสูงสุด จากการทำสำนวนคดีสลายการชุมนุมในปี 53 และคดี 13 ศพลูกเรือจีน

จากนั้นมีการแต่งตั้ง “อัยการสูงสูด” คนใหม่ขึ้นมา แต่งตั้งโดยผ่านคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) หรือไม่? ลองไปสอบถามคนในสำนักงานอัยการสูงสุด เพราะช่วงนั้นมีการ “แต่งดำ” ไว้ทุกข์กันด้วย

ต่อมาอัยการทั่วประเทศ ก็ตอบโต้ “หัวหน้า คสช.” ตามวิถีทางประชาธิปไตย ด้วยการเทคะเเนนเลือกนายอรรถพลเป็นประธาน ก.. คนเเรก! ตามกฎหมายใหม่ ได้ 1,810 คะเเนน จากบัตร 3,061 ใบ

สรุปคือหลังรัฐประหาร มีการเข้าไปจุ้นจ้านในสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นองค์กรอิสระในกระบวนการยุติธรรม ที่ผู้มีอำนาจไม่ควรเข้าไปยุ่มย่าม แล้วก็ตั้ง สว.ขึ้นมาเอง ให้ สว.มีอำนาจตั้ง ป.ป.ช.-กกต.-ศาลรัฐธรรมนูญ

ประธาน สว.-สว.ลากตั้ง หมดวาระเมื่อ 10 พ.ค. 67 ไม่สามารถโหวตเลือกนายกฯได้แล้ว! แต่ยังมีหน้าที่ มีสิทธิยื่นถอดถอนนายกฯ ได้อีกหรือไม่? ฝ่ายกฎหมายของนายเศรษฐาช่วยสอบถามศาลรัฐธรรมนูญให้ที!!.

………………………………….
พยัคฆ์น้อย

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…