วันนี้ขอชื่นชมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จากกรณีมีการประชุมเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 67 แล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่เลื่อนการเลือก สว.ในระดับอำเภอเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 67 ออกไป! เพราะยังไม่มีเหตุจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะทำให้การเลือกสว.ต้องเลื่อนออกไป
เนื่องจากถ้าเลื่อนเลือกสว.ระดับอำเภอออกไป ระบบมันจะรวนไปหมด ทั้งการเลือก สว.ในระดับจังหวัด (16 มิ.ย.) การเลือก สว.ระดับประเทศ (26 มิ.ย.) และการประกาศผลเพื่อให้ได้ สว. 200 คน (2 ก.ค. 67) ต้องเกิดโรคเลื่อนตามไปด้วย!
ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะเข้าทางปืนของ สว.ลากตั้งบางคน ที่ไม่รู้จักปล่อยวาง ยังไม่รู้จักพอ! ก็จะเป็น สว.รักษาการต่อไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าการเลือก สว.ชุดใหม่ ยังเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ กกต.กำหนดไว้ หลังจากวันที่ 2 ก.ค. ไปแล้ว สว.ลากตั้ง 250 คน ก็ต้องกลับไปนอนเกาพุงอยู่ที่บ้าน
แหล่งข่าวใน กกต.กระซิบบอก “พยัคฆ์น้อย” ว่าปัญหาการร้องเรียนต่าง ๆ ก็ว่ากันไป ในขณะที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2561 ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องโดยศาลรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ตอนร่างฯแล้ว! ดังนั้นจะส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกันอีกทำไม?
แต่ในอนาคตหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดหรือเห็นแย้ง! กกต.ก็ต้องปฏิบัติตาม แต่ที่ กกต.กำลังดำเนินการอยู่จนถึงวันนี้ เป็นการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจน
“พยัคฆ์น้อย” เคยกล่าวไปแล้วหลายครั้งว่า สว.ลากตั้ง 250 คน ถูกเปรียบเทียบเหมือน “ผลไม้พิษ” ของการรัฐประหารเมื่อปี 57 โดย สว.ชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งมาจากคณะรัฐประหาร (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) สว.ส่วนใหญ่เป็นทหาร–ตำรวจ อดีตข้าราชการ เพื่อนพ้องน้องพี่ รวมไปถึงคู่เขยของคนทำรัฐประหาร
เห็นได้จากบทบาทของ สว.ชุดนี้ ไม่เคยยื่นขอเปิดอภิปรายซักฟอกการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ-หนี้สิน-สังคมต่าง ๆ มากมาย แต่พอรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาบริหารประเทศแค่ 6 เดือน งบประมาณปี 67 ยังไม่ผ่าน! แต่สว.ลากตั้งทำเป็นออก “แอ็กชัน” ขอเปิดอภิปรายการทำงานรัฐบาลตั้งแต่ไก่โห่
สรุปคือที่มาของ สว. 250 คน ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน แต่มีอำนาจในการโหวตเลือกคนทำรัฐประหารให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 4 ปี นอกจากนั้น สว.ชุดดังกล่าวยังมีอำนาจแต่งตั้งองค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น ป.ป.ช.-กกต.-ศาลรัฐธรรมนูญ
วันนี้ความคิดเห็นหรือมุมมองของ สว.ลากตั้งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตัวเองจบแล้ว! คือเรียกว่าเข้าใจในบริบทของ “หน้าที่” และ “สิทธิ” ของตัวเองในฐานะ สว.รักษาการอย่างถ่องแท้
ไม่เช่นนั้น สว.เสรี สุวรรณภานนท์ คงไม่เตือนสติสว.ผ่านสื่อฯ ในทำนองว่าอย่าจุ้นจ้านการเลือก สว.ชุดใหม่ให้มากนัก เพราะมีกฎหมายห้ามไว้ ถ้าเห็นความไม่ชอบมาพากล หรือมีข้อมูลการ “ฮั้ว” ต้องส่งหลักฐานให้ กกต.จัดการ อย่าเอาความเห็นตัวเองไปชี้ถูก-ผิดใคร!
ส่วน สว.อีกกลุ่ม คือพวกที่พยายามเคลื่อนไหวในแนวทางตรงกันข้ามกับ สว.เสรี เพราะกลัวว่าถ้าการปกครองบ้านเมืองเข้าที่เข้าทางเมื่อไหร่! พวกเขาจะไม่มีที่ยืนทางการเมือง ไม่มีพื้นที่แสดงบทบาททางการเมืองอีกต่อไปหรืออย่างไร?
สว.กลุ่มหลังนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนกันเองที่ทำหน้าที่เลือก “องค์กรอิสระ” กันเข้ามา! รวมทั้งโหวตเลือก กกต. 7 คน เข้ามาทำงานอยู่ในปัจจุบันนั่นแหละ! แต่เมื่อหมดวาระแล้วหลายคนยังออกอาการพล่านหนัก! กกต.เขาจึงสามัคคีกันลุยเลือก สว.ชุดใหม่ให้จบ ๆ ตามไทม์ไลน์ เพื่อไล่ สว.ลากตั้งกลับไปอยู่บ้านกันเสียที!!.
…………………………………
พยัคฆ์น้อย
